“Marimekko” ชื่อนี้ ทำไมถึงเป็นที่นิยมของนักช๊อป
- Published in ถูกใจขาช็อป
How to ซื้อสินค้าจาก Mercari Japan
- Published in ถูกใจขาช็อป
แนะนำเว็บฝากซื้อของจากญี่ปุ่น ยาฮูประมูล,ยาฮูเจแปน, Yahoo Auction เว็บขวัญใจของคนชอบประมูลสินค้าจากญี่ปุ่น!!!
สวัสดีคร๊า… เพื่อน ๆ ที่น่ารักทุกคน หลังจากห่างหายไปนานกับการเขียนบทความ วันนี้เเอดมินจะมานำเสนอเว็บประมูลสินค้าจากญี่ปุ่น นั่นก็คือเว็บ ยาฮูออคชั่น หรือ ยาฮูเจแปนประมูลนั่นเอง (Yahoo Japan/Auctions ) สำหรับลูกค้าท่านใดที่สนใจฝากซื้อของจากญีปุ่น กับเว็บยาฮูประมูล/ยาฮูเจแปน/ยาฮูออคชั่น (Yahoo Japan/Auctions) ตามมาอ่านกันได้เลยจ๊า ^^
เว็บยาฮูเจแปน/ยาฮูประมูล/ยาฮูออคชั่น (yahoo Japan/Auctions) เป็นอีกหนึ่งเว็บขวัญใจสำหรับลูกค้าหลาย ๆ คนที่สนใจฝากซื้อของจากญี่ปุ่น เพราะมีสินค้าให้เลือกมากมาย สินค้าบางรายการก็เป็นสินค้าที่หายาก ที่เว็บอื่นไม่มีขาย ก็จะมาหาได้ในเว็บนี้เช่นกัน เพียงแต่ลูกค้าต้องขยันเข้ามาส่องดูสินค้าที่มาลงประมูลบ่อย ๆ เนื่องจากเป็นเว็บประมูล ก็จะมีระยะเวลาลงสินค้าเพื่อให้ผู้ที่สนใจมาร่วมเสนอราคาภายใน 7 วัน ใครที่เสนอราคาสูงสุด ก็จะเป็นผู้ชนะ ได้สินค้าไปครอบครอง ซึ่งแน่นอนว่าขึ้นชื่อว่ายาฮูประมูล/ยาฮูเจแปน/ยาฮูออคชั่น (yahoo japan/auctions) ก็ต้องมีการขับเคี่ยว ต่อสู้แข่งขันกับผู้เสนอราคาท่านอื่น ๆ อีก ทีนี้บทความนี้ที่แอดมินจะมานำเสนอ ก็จะเป็นคำถามที่แอดมินตอบบ่อย ๆ สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยใช้บริการ ฝากซื้อของจากญี่ปุ่น จากเว็บประมูลยาฮูเจแปน/ยาฮูประมูล/ยาฮูออคชั่น (Yahoo Japan/Auctions)
รูปด้านล่างนี้ แอดมิน มีตัวอย่างว่าสินค้ารายการนี้ จบลงด้วยราคากี่เยน , มีค่าส่งไหม , และวิธีดูฟีดแบคคนขายค่ะ สำหรับลูกค้าที่สนใจที่ฝากซื้อของจากญี่ปุ่น จากเว็บยาฮูเจแปน/ยาฮูประมูล/ยาฮูออคชั่น (Yahoo Japan/Auctions) แอดมินแนะนำนะคะ ว่าควรที่จะดูฟีดแบคคนขายประกอบไปด้วย เนื่องจากมีพวกมิจฉาชีพแอบแฝงอยู่ตามเว็บต่าง ๆ อยู่พอสมควร เพราะฉะนั้น เราไม่ควรเชื่อใจว่าที่ญีปุ่นไม่มีการโกง ไม่มีของปลอม อันนี้ไม่จริงนะคะ มีทุกที่ทั่วโลกค่ะ อยู่ที่ว่าประเทศไหนมีมากน้อยแค่นั้นเอง ในหมู่คนดีย่อมมีคนไม่ดีปะปนอยู่ทุกที่ไป 555 เพราะฉะนั้นเราไม่ควรประมาทจะเป็นการดีทีสุดฮ๊าฟฟฟ (=^.^=)
ส่วนรูปต่อไป เป็นวิธีดูว่า รายการนี้จะจบวันไหน เวลากี่โมงนะจ๊า จะมีรายละเอียดว่าตอนนี้มีคนประมูลแข่งกันกี่ครั้งแล้ว จบวันไหน และเวลาอะไร!!
ในรูปนี้คือเวลาของประเทศญีปุ่น เพื่อน ๆ บางคนบอก ไม่รู้ว่าถ้าเป็นเวลาไทยคือเวลากี่โมง ก็ง่าย ๆ เลยจ๊า เวลาของญีปุ่น จะเร็วกว่าเวลาที่ประเทศไทย 2 ชม. อย่างตัวอย่างในรูป เวลาญีปุ่นคือ บ่ายโมงสิบสามนาที จะเป็นเวลาไทยคือ สิบเอ็ดโมงสิบสามนาทีจ๊า
ส่วนวิธีการประมูลของยาฮูเจแปน/ยาฮูประมูล/ยาฮูออคชั่น (Yahoo Japan/Auctions) คือ ลูกค้าจะต้องแจ้งราคาประมูลสูงสูด (Max Bid) ลูกค้าบางท่านยังไม่เข้าใจว่าราคาประมูลสูงสุดคืออะไร แอดมินก็ขออธิบายง่าย ๆ นั่นก็คือ ราคาสูงสุดที่ลูกค้าคิดว่าไหว เช่น สมมุติราคาเริ่มต้นที่ร้านเค้าเริ่มคือ 1 เยน ลูกค้าก็คิดดูว่าสินค้าชิ้นนี้ ลูกค้าสามารถซื้อไหวได้ในราคาเท่าไหร่ เช่น ลูกค้าบอกว่าคิดว่าไหวที่ 10,000 เยน คือราคาสูงสุดที่ลูกค้าซื้อไหว แอดมินก็จะบิดที่ราคา 10,000 เยน คือราคาประมูลสูงสุดให้ และคำถามยอดฮิตอีกคำถามคือ ถ้าแอดมินใส่ราคาที่ 10,000 เยน มันจะจบราคานี้เลยไหม คำถามนี้เจอบ่อยมากกกกกก ก.ไก่ล้านตัว 555 แอดมินก็ขออธิบายมาในบทความนี้เลยนะจ๊าว่า ไม่จ๊า…
แอดมินขออธิบายเป็นตัวอย่างเพื่อให้เข้าใจง่ายดังต่อไปนี้นะจ๊า
– ตัวอย่างที่ 1 สมมุติราคาเริ่มต้นที่คนขายตั้งไว้คือ 1 เยน ถ้ายังไม่มีคนประมูลแข่งเลย และนายA. ใส่ราคาประมูลสูงสุดที่ 10,000 เยน เมื่อถึงเวลาจบ ก็ยังไม่มีคนมาประมูลสู้ ราคาจะจบที่ราคา 1 เยนค่ะ (นายA. คือคุณลูกค้าที่ฝากแอดมินประมูลนะคะ)
– ตัวอย่างที่ 2 สมมุติราคาเริ่มต้นที่คนขายตั้งไว้คือ 1 เยน และนาย A. ใส่ราคาประมูลสูงสุดที่ 10,000 เยน แต่ในรายการนี้มีคนบิดสู้ สมมุตนาย B. (คู่แข่ง) ใส่ราคาประมูลสูงที่ 5,500 เยน หลังจากนาย B. ใส่ราคาปุ๊บ ราคาจะขยับมาเป็นที่ 6,000 เยนค่ะ ซึ่งก็คือนาย A. จะชนะ และราคาที่ชนะไปคือ 6,000 เยน ***ยาฮูประมูล/ยาฮูเจแปน/ยาฮูออคชั่น (Yahoo Japan/Auctions) จะบิดเพิ่มที่ละ 500 เยน หรือ 1,000 เยนค่ะ แล้วแต่ว่ามีคนสู้ราคามากน้อยและแพงแค่ไหนค่ะ จะเป็นประมูลใส่ราคาออโต้ค่ะ)
– ตัวอย่างที่ 3 สมมุติราคาเริ่มต้นที่คนขายตั้งไว้คือ 1 เยน และนาย A. ใส่ราคาประมูลสูงสุดที่ 10,000 เยน แต่ในรายการนี้มีคนบิดสู้ สมมุตนาย B. (คู่แข่ง) ใส่ราคาประมูลสูงที่ 5,500 เยน นาย C. (คู่แข่ง) ใส่ราคาประมูลสูงสุดที่ 12,500 เยน ในรายการนี้ นาย C. จะเป็นผู้ชนะค่ะ และราคาที่ชนะไปคือ 10,500 เยน ***เหตุผลที่ แม้นาย C. จะใส่ราคาสูงสุดที่ 12,500 เยน แต่ราคาที่ชนะไปคือ 10,500 เยน เป็นเพราะว่า นาย A. ใส่ราคาประมูลสูงสุดที่ 10,000 เยนค่ะ เพราะฉะนั้น เมื่อระบบทำการใส่ราคาออโต้ ราคาจึงเพิ่มมา 500 เยน จากราคาที่นาย A.ใส่ ทำให้นาย C. ชนะไปในที่สุดในราคา 10,500 เยน***
อีกประเด็นหนึ่งที่ลูกค้าพูดบ่อยมากคือ โห… เสียดายมากเลยพี่ ชนะไปแค่ 500 เยนเอง 555 จริง ๆ แล้วไม่ใช่นะคะ เพราะตามตัวอย่างที่แอดมินอธิบายในตัวอย่างที่ 3 จริง ๆแล้วนาย C. ใส่ราคาไว้ 12,500 เยน และชนะไปที่ 10,500 เยน หรือมากกว่า 500 เยนที่นาย A.ใส่ไว้ ในความเป็นจริง จะไม่มีใครรู้เลยว่าคนชนะใส่ราคาไปเท่าไหร่หรือมากน้อยแค่ไหน เพราะฉะนั้นยาฮูประมูล/ยาฮูเจแปน/ยาฮูออคชั่น (Yahoo Japan/Auctions) คือการวัดใจกันล้วน ๆ ว่าเราอยากได้สินค้านั้นมากน้อยแค่ไหน ใจป้ำสู้ได้มากแค่ไหนนั่นเอง และที่โหดดดดดดไปกว่านั้นคือ ยาฮูประมูล/ยาฮูเจแปน/ยาฮูออคชั่น (Yahoo Japan/Auctions) จะมีการต่อเวลาไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะไม่มีคนประมูลสู้ โหดดดดมาก ไม่เหมือนเว็บของอเมริกาอย่างอีเบย์ ที่สมมุติบอกว่า เวลาจบคือ วันนี้ ตอนสามทุ่ม พอสามทุ่มปุ๊บก็จบเลย ไม่มีการต่อเวลา แต่ยาฮูประมูล/ยาฮูเจแปน/ยาฮูออคชั่น (Yahoo Japan/Auctions)ไม่ใช่จ๊า !!!! พี่แกโหดดดดดกว่าเย๊อออะะะะะ (ᗒᗨᗕ)
สมมุติหน้าเว็บแจ้งว่าจะจบวันนี้ เวลาสามทุ่ม และสมมุติมีคู่ต่อสู้มาประมูลตอนเวลาสองทุ่มห้าสิบนาที เว็บยาฮูประมูล/ยาฮูเจแปน/ยาฮูออคชั่น (Yahoo Japan/Auctions) จะทำการขยายเวลาออกไปทันทีอีก 10 นาที เป็นเวลาจบใหม่คือ สามทุ่มสิบนาที โอ๊..บร๊ะเจ้าช่วย!!! 555 และเว็บจะทำการต่อเวลาแบบนี้ไปอีกเรื่อย ๆ จนกว่าจะไม่มีคนประมูลสู้ ประสบการณ์ที่แอดมินเคยเจอคือ เคยขยายเวลาต่อไปอีก 3 ชม. จบตี 2 กว่า เพลียเลย 555 หลัง ๆ แอดมินเลยขออนุญาติว่า ให้แจ้งราคาที่เป็นราคาสูงสุดจริง ๆ ที่ลูกค้าคิดว่าไหว เพราะแอดมินจะบิดให้ทีเดียวเท่านั้น เพราะอยู่สู้ราคาไปเรื่อย ๆ ไม่ไหวค่ะ ดึกเกิ๊นนนน (ᗒᗨᗕ) ขอยอมในความโหดดดของเว็บนี้ 555
อีกข้อที่อยากฝากถึงลูกค้าทั้งหลายที่สนใจฝากซื้อของจากญี่ปุ่น จากเว็บยาฮูประมูล/ยาฮูเจแปน/ยาฮูออคชั่น (Yahoo Japan/Auctions) คือ บางทีเราเห็นเวลาเริ่มถูก ๆ ลูกค้าส่วนใหญ่มักคิดว่าจะจบที่ราคาถูกมาก ๆ นั้น เป็นการคิดที่ผิดอยากมาก 555 เพราะส่วนใหญ่คนจะเข้ามาใส่ราคากันในวันใกล้จบจ๊า เพราะฉะนั้นจึงอยากให้ลูกค้ารอดูราคาในวันก่อนจบสัก 1-2 วันแล้วตัดสินใจว่าจะสู้ราคาได้ไหม หรือได้เท่าไหร่นะคะ แล้วก็เว็บนี้ส่วนใหญ่มีค่าส่งในญีปุ่นนะคะ ไม่ค่อยมีส่งฟรี ราคาค่าส่งส่วนใหญ่อยู่ที่ 500 เยน + ค่ะ นอกจากพวกการ์ดหรือของชิ้นเล็กๆ น้ำหนักเบา ๆ ถึงจะ 200 เยน + แต่ก็มีบางคนขายนะคะ ที่ค่าส่งแพงกว่าที่บอก ถึงแม้จะเป็นสินค้าชิ้นเล็กและน้ำหนักเบา เพราะคนขายบางคนตั้งราคาสินค้าไว้ถูก ๆ แต่จะไปกินก็ตรงค่าส่งนี่ล่ะค่ะ เหมือนประมาณว่าล่อให้เข้ามาซื้อก่อน แต่เจอค่าส่งแพงกว่าราคาสินค้าไปอีกก็มีเยอะนะจ๊า 555
❤ เขียนมายืดยาว ก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย สำหรับคนที่กำลังคิดมองหาร้านฝากซื้อของจากญี่ปุ่นจากเว็บยาฮูประมูล/ยาฮูเจแปน/ยาฮูออคชั่น (Yahoo Japan/Auctions) ไม่มากก็น้อยนะคะ แต่ถ้าหากยังไม่มันใจ ติดต่อสอบถามได้ในเวลาทำการ ทั้งทางเพจ https://www.facebook.com/Vservicejapan/ และ ไลน์ ushopping77 ได้เลยจ๊า ❤
- Published in ถูกใจขาช็อป
เว็บน้องใหม่จากยาฮู PaypayFleaMarket ประชัน Mercari !!!
สวัสดีจ๊า วันนี้แอดมิน มีเว็บใหม่มานำเสนอ Freshhhhhh มากกกก นำเสนอโดยเว็บยาฮู Yahoo.co.jp นั่นเองคร่าาาา…
เว็บน้องใหม่ที่ว่านี้คือเพย์เพย์ฟรีมาร์เกต (PaypayFleaMarket.yaoo.co.jp) เว็บนี้ทำมาเพื่อแข่งกับเมอคารี่ (Mercari.co.jp) ก็ว่าได้นะ ตามความคิดเห็นของแอดมิน เว็บนี้เหมือนกันเกือบทุกอย่างกับเมอคารี่ (Mercari.co.jp)เลยจ๊า ทั้งเรื่องของการให้ฟีดแบคคนขาย / คนซื้อ , สินค้า แต่หน้าเพจแอดมินว่าดูแล้วไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ หรือเป็นเพราะแอดมินคุ้นเคยกับการกดซื้อเว็บเมอคารี่ (Mercari.co.jp) มากกว่าก็ไม่รุ้เนอะ 555
เท่าที่ฟังฟีดแบคบางส่วนจากลูกค้าที่ส่งลิงค์จากเพย์เพย์ฟรีมาร์เกต (PayPaylFeaMarket.yahoo.co.jp) มาให้กดนะจ๊า ลูกค้าบอกว่า ราคาสินค้าถูกกว่าเว็บเมอคารี่ (Mercari.co.jp) อันนี้ก็ไม่แน่ใจว่าจริงแท้แค่ไหน เพราะเป็นแค่ฟีดแบคบางส่วนเท่านั้นนะจ๊า ถ้าเพื่อน ๆ อยากรู้ต้องส่งลิงค์มาให้แอดมินกด แล้วบอกด้วยว่าถูกกว่าจริงไหม จะได้เก็บข้อมูลไปในตัว 555
จากเท่าที่แอดมินดูนะคะ ข้อเสียของเว็บเพย์เพย์ฟรีมาร์เกต (PaypayFleaMarket.yahoo.co.jp) คือสินค้ายังน้อยอยู่ อาจเป็นเพราะเพิ่งเปิดตัวไม่นาน และใช้ไม่ค่อยสะดวกเพราะว่าต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นเท่านั้น ถึงจะกดซื้อและขอเม้นได้ในกรณีที่คนขายต้องการให้เม้นขอซื้อ และจากที่ลูกค้าบางเสียงบ่นว่าเสิชหาสินค้ายังไม่ง่ายเท่าเมอคารี่ แต่เท่าที่ดูแนวโน้มจากลูกค้าที่ทักมาถามว่ารับเว็บนี้ไหม แอดมินว่าเว็บนี้ค่อนข้างมาแรงทีเดียวจ๊า อีกไม่นานคงมียอดขายสู้เมอคารี่ (Mercari.co.jp) ได้สบาย ๆ วันนี้ก็ขอจบการแนะนำเว็บไซต์แต่เพียงเท่านี้นะจ๊า ไว้มีโอกาสแอดมินจะมาเขียนบทความใหม่ ๆ ให้อ่านกันนะจ๊า บ๊ายบายยย ^^
- Published in ถูกใจขาช็อป
Chinatown Market x Converse ใหม่ ++ รองเท้าคอนเวิร์ส เปลี่ยนสีได้เมื่อโดนแสงแดด !!!
เมื่อ Converse ได้ร่วมมือกับ Chinatown Market ออกรองเท้ารุ่นใหม่ ที่หลายคนต้องตะลึงตึงตึ๊ง !!!
รองเท้ารุ่นนี้มีชื่อว่า Chinatown Market มี 2 รุ่น ให้เลือก นั่นคือ รุ่น Chuck 70 Hi และ รุ่น Chuck 70 Ox เสนอราคาอยู่ที่ $100 เหรียญ และ $95 เหรียญ รองเท้านี้ออกแบบโดย Michael Cherman
ความพิเศษของรองเท้ารุ่นนี้เมืออยู่ในที่ร่ม จะเป็นรองเท้าพื้นสีขาวธรรมดา แต่เมื่อเราก้าวเท้าออกจากบ้าน หรือออกข้างนอกปุ๊บ รองเท้าจะเปลี่ยนสีทันทีที่โดนแสง UV หรือแสงแดดนั่นเอง ใครที่เป็นแฟนของรองเท้า Converse อย่าลืมหามาจับจองครอบครองกันนาจ๊า (◍•ᴗ•◍)❤
- Published in ถูกใจขาช็อป
วิธีฝากซื้อสินค้าจาก Mercari Japan เว็บยอดนิยมของนักช็อป
วันนี้ แอดมินมีบทความรับฝากซื้อของจากเว็บเมอคารี่เจแปน Mercari Japan มาให้อ่านกันเพลิน ๆ นะคะ เนื่องจากมีลูกค้ามากมาย ที่สนใจฝากซื้อสินค้าจากเว็บยอดฮิตนี้อย่างล้นหลามมมม แอดมินจึงเกิดแรงบันดาลใจมาเขียนเล่าประสบการณ์ และ วิธีการฝากซื้อสินค้าจากเว็บเมอคารี่มาให้ลูกค้าที่ยังไม่เคยฝากซื้อของจากเมอคารี่กับเเอดมิน
เหตุผลที่เว็บเมอคารี่เป็นที่ชื่นชอบของลูกค้ามากมายนั่นคือ เว็บนี้มีของลงขายเยอะ และราคาถูกกว่าเว็บอื่น เพราะคนขายส่วนใหญ่รวมค่าส่งไว้แล้ว แต่เว็บอื่น ๆ ส่วนใหญ่จะมีค่าส่งแยกต่างหากจากราคาสินค้า และสินค้าที่เว็บอื่นหาไม่ได้ แต่เว็บนี้มีขายก็พบเจอได้อยู่บ่อย ๆ นี่เป็นเหตุผลหลัก ๆ ที่ทำให้เว็บเมอคารี่เป็นเว็บยอดนิยม ติดอันดับต้น ๆ ของนักช๊อปเลยก็ว่าได้
แอดมินจึงอยากมาเขียนประสบการณ์ให้เพื่อน ๆ ที่ยังไม่เคยฝากซื้อของจากญี่ปุ่นกับ Vservice Japan ได้ทำความเข้าใจสักนิด ส่วนลูกค้าประจำของแอดมินนั้นก็สามารถเข้ามาอ่านกันได้เเบบเพลิน ๆ ไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะฝากแอดมินซื้อกันบ่อยอยู่แล้ว 555 เอาล่ะมาเริ่มทำความรูว้จักกับเว็บนี้กันเลยดีกว่า ว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง
คำถามยอดฮิตสำหรับเว็บเมอคารี่ (Mercari.jp) คือ มีลูกค้าสอบถามมาว่า เว็บเมอคารี่นี้ ฝากแอดมินต่อราคาสินค้าได้หรือไม่?
คำตอบ – แอดมินสามารถต่อราคาให้ได้ แต่แค่บางรายการเท่านั้น ถ้ารายการไหน คนขายเขียนว่าไม่ให้ต่อ แอดมินก็ไม่ต่อนะจ๊า เพราะว่าเคยต่อแล้ว ปรากฎว่าโดนบล๊อคจ๊า ลูกค้าหลายคนคงงว่าอะไรคือโดนบล๊อค โดนบล๊อคคือ คนขายบล๊อคไอดีของแอดมิน คือไม่ขายให้ ไม่ว่าตอนนี้หรือ ในอนาคต คือไม่สามารถกดซื้อสินค้าจากคนขายคนนี้ได้เลย ไม่ว่าชิ้นไหนก็ตามที่เค้าลงขายในเมอคารี่นั่นเอง นั่นหมายถึง ไม่ใช่เฉพาะลูกค้าที่ฝากต่อราคาเท่านั้นที่จะฝากกดซื้อจากคนขายนี้ไม่ได้ แต่ยังรวมถึงลูกค้าท่านอื่น ๆ ที่อาจจะสนใจสินค้าจากคนขายคนนี้ ก็ไม่สามารถฝากแอดมินกดซื้อได้เช่นกันจ๊า ถ้ารายการไหนที่ต่อได้ แอดมินขออนุญาตไม่ต่อราคาที่เกิน 1/4 ของราคาขายนะคะ เช่น สมมุตคนขายขายที่ราคา 10,000 เยน ลูกค้าบอกว่าต่อให้หน่อยค่ะ 5,000 เยน อันนี้แอดมินไม่สามารถต่อให้ได้นะคะ เนื่องจากอาจโดนบล๊อคค่ะ อย่างมากแอดมินจะถามคนขายว่า สินค้าชิ้นนี้สามารถลดราคาได้มากสุดเท่าไหร่ จะถามให้แค่นี้นะคะ ขอให้ลูกค้าเข้าใจนะคะ เพราะถ้าโดนบล๊อคมา มันไม่คุ้มเลยจ๊า (ᗒᗨᗕ)
คำถามต่อมาที่ฮิตสุด ๆ เลยคือ ผมจ้างพี่เปิดแอคเคาน์เมอคารี่ได้ไหม
คำตอบ – ไม่ได้จ๊า เพราะเมอคารี่จะล๊อคชื่อและที่อยู่ให้มีเพียงแค่บัญชีเดียวเท่านั้น คือถ้าชื่อนี้ ที่อยู่นี้ สามารถมีบัญชีได้แค่ 1 บัญชี ไม่สามารถเปิดบัญชีที่ 2,3,4… ได้ เพราะเเอดมินเคยเปิดแล้ว โดนเมอคารี่เมล์มาแจ้งเลยว่าจะปิดบัญชี เพราะไม่อนุญาตให้สมาชิกเปิดหลาย ๆ บัญชี เนื่องจากป้องกันการทุจริต หรือฉ้อโกงนั่นเอง และการเปิดบัญชีเมอคารี่เด๋วนี้ไม่ง่ายเหมือนสมัยแรก ๆ เด๋วนี้เปิดบัญชีเสร็จ ต้องส่งเอกสารใบขับขี่ และ เอกสารธุรกรรมเช่น บิลค่าน้ำค่าไฟ , ค่าประกันสังคม เพื่อยืนยันตัวตนว่าชื่อนี้ อยู่ที่อยู่ที่นี้จริง ไม่ใช่ตัวปลออม เอาชื่อคนอื่นมาใส่ เพื่อป้องกันไม่ให้มีคนไม่ดี มาใช้เมอคารี่หากิน และทำให้ผู้ใช้ที่เป็นคนดีอย่างเรา ๆ ได้รับความเสียหายหรือสูญเงินนั่นเอง!!!
อีกคำถามหนึ่งเลยที่ตอบไม่หวาดไม่ไหวคือ ลูกค้าจะลองเปิดบัญชีเมอคารี่เองได้ไหม
คำตอบ – ไม่ได้เช่นกันจ๊า ตอนนี้เนื่องจากเมอคารี่ (Mercari.jp) ไม่อนุญาตให้บุคคลที่อาศัยอยู่นอกญี่ปุ่น สามารถเปิดแอคเคาน์ได้ คำอธิบายที่เข้าใจได้ง่าย ๆ คือ ต้องเป็นบุคคลที่อาศัยอยู่ในญีปุ่นเท่านั้น ถึงจะสามารถเปิดแอคเคาน์ได้ อันนี้ลูกค้ามักเข้าใจผิดว่า แค่มีที่อยู่ที่ญี่ปุ่นก็สามารถเปิดได้ แอดมินขออธิบายว่า ***ไม่สามารถทำได้นะคะ คนที่จะเปิดแอคเคาน์ได้ คือตัวต้องอยู่ในญี่ปุ่น และเครื่องโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ ต้องอยู่ในญี่ปุ่นเหมือนกัน ***
ต่อให้มีที่อยู่ที่ญี่ปุ่นก็ไม่สามารถเปิดได้ ถ้าคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์ที่เราใช้เปิดบัญชีไม่ได้อยู่ในญี่ปุ่น เพราะมีลูกค้าถามมากมาย ว่าจะเปิดยังไง สรุปคือเปิดไม่ได้ ถ้าเปิดได้คือลูกค้าต้องไปญี่ปุ่น ต้องหิ้วเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือ โทรศัพท์ที่เราใช้งานไปญี่ปุ่นเท่านั้น ถึงเปิดได้ เพราะทางเว็บเมอคารี่ (Mercari.jp) เค้าใช้วิธีจับสัญญาณจากคอมพิวเตอร์เรา หรือโทรศัพท์ของเรา ถ้าสัญญาณ ไม่ได้มาจากภายในญีปุ่น เปิดยังไงก็เปิดไม่ได้ค่ะบัญชี
อีกประเด็นคือ ลูกค้าลองเปิดแล้ว แต่เว็บบอกให้ยืนยันตัวตน ต้องมีเบอร์โทรศัพท์ของญี่ปุ่น แอดมินก็ขอยืนยันคำเดิม คือ ต่อให้มีเบอร์โทรศัพท์ที่ญีปุ่น ก็เปิดไม่ได้ เพราะตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือ โทรศัพท์ ไม่ได้อยู่ในประเทศญีปุ่น ต่อให้กรอกไป ก็ไม่ได้อยู่ดี เพราะแอดมินลองมาหมดแล้ว ถึงรู้ ทำยังไงก็ไม่ได้ สรุปคืออยากเปิดบัญชี ต้องเดินทางไปญี่ปุ่น เอาเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์ไปเปิดบัญชีที่ญีปุ่นค่ะ เพราะแอดมินก็ต้องทำแบบนี้เหมือนกัน เวลาที่ซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ หรือเปลี่ยนคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่นะจ๊า สรุปคือ ขอให้ลูกค้าเลือกสินค้าและราคาที่คิดว่าโอเคสำหรับลูกค้านะคะ ค่อยส่งลิงค์มาให้กดจ๊า
ประสบการณ์อีกอย่างทีแอดมินเจอคือ เวลากดซื้อของไปแล้ว โดนคนขายแคนเซิลมา หลายคนอาจงงว่า อารายว๊าาา ทำไมล่ะ เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้ มีอยู่หลายสาเหตุด้วยกัน นั่นคือ
1. คนขายเขียนไว้ในโปรไฟล์ หรือ อาจจะเขียนในรายละเอียดสินค้าว่า ให้คอมเม้นก่อนซื้อ ลูกค้าหลายคนงงว่า อะไรพี่ ทำไมต้องคอมเม้นก่อนซื้อ 555 แอดมินมีคำตอบให้ดังนี้คือ บางคนขายอ่ะ เข้าใจได้ว่า ถ้าอยากซื้อของฉัน ต้องขออนุญาติฉันก่อน ว่าขอซื้อได้ไหมประมาณนี้ คือถ้าคนขายไม่พอใจจะขาย เค้าก็ไม่ขายให้ คือต้องง้อคนขายฝุด ๆ 555 กับอีกอย่างคือ คนขายเอาสินค้าลงขายหลายเว็บไซต์ เค้าเลยบอกว่าให้คอมเม้นขอซื้อก่อน เพราะของอาจจะขายไปแล้วในเว็บอื่น อะไรประมาณนี้จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมให้เม้นก่อนกดซื้อนาจ๊า
2. คนขายได้ตกลงขายให้กับคนซื้อคนอื่นไปแล้ว ซึ่งคนขายบางคนเค้าก็จะทำเพจระบุชื่อคนซื้อไว้ ว่าต้องให้คนนี้กดซื้อเท่านั้นนะ คนอื่นห้ามกด แต่จะมีบางครั้งที่แอดมินไม่ได้อ่านรายละเอียด ลูกค้าส่งลิงค์มาก็กดเลย ไม่ได้อ่าน 555 ก็โดนแคนเซิลไปตามระเบียบ สำหรับคนขายบางคน พอเรากดไปแล้วเค้าก็อาจมาต่อว่า ว่าไม่ได้อ่านหรือไงว่าอันนี้ให้คนชื่อ…นี้กดซื้อเท่านั้น ก็มีต่อว่ามาก่อนที่จะโดนแคนเซิล กับอีกอย่างคือ คนขายปล่อยผ่าน ยอมขายให้ เพราะเค้าอาจจะขี้เกียจเอาไปลงขายใหม่ เลยยอมขายให้อย่างเสียไม่ได้ 555 แต่ทั้งนี้ ถ้าเพื่อน ๆ บอกว่า กดเลยพี่ ถ้าคนขายแคน ก็ให้แคนมา แอดมินขออนุญาตไม่กดให้นะจ๊า เพราะบางคนขายเคร่งครัดมาก แคนมาไม่พอ บล๊อคไอดีแอดมินอีกด้วย เนื่องจากไม่พอใจ ทำให้เค้าเสียเวลาต้องลงขายใหม่ และ ถือว่าเราไม่มีมารยาทที่ไม่อ่าน บล๊อคๆๆๆไปอีก เห่อๆๆๆ > <
3. ตอบช้าไม่ทันใจคนขาย 555 ลูกค้าหลายคนอ่านแล้วคงงงว่าคืออะไร ตอบช้าไม่ทันใจคนขาย > < นั่นคือ เวลาที่เราไปต่อราคาคนขายหรือคอมเม้นขอซื้อ ซึ่งแอดมินอาจจะเม้นไปตอนเช้า แล้วพอตอนเย็น หรือค่ำ ๆ หรืออีก 3 วันต่อมา หรือ 1 อาทิตย์ต่อมาคนขายตอบกลับมาว่าโอเค ลดราคาให้ แต่แอดมินอ่ะอาจจะติดธุระทำงานอยู่เลยไม่ได้ได้เข้าไปอ่าน หรือลูกค้าที่ฝากต่อก็เปลี่ยนใจบอกไม่เอาแล้วรอคำตอบนานเกินอย่างนี้เป็นต้น แค่เราตอบช้าไปไม่ถึง 1 ชม.จากที่คนขายเม้นตอบมา แอดมินก็โดนบล๊อค อันนี้ไม่ได้เว่อร์เลยนะ ที่เอามาเขียนนี่ประสบการณ์ตรงล้วน ๆ เจอมาหลายแบบมาก กับคนขายมีหลายระดับความเข้าถึง และเข้าไม่ถึง 555
อีกเรื่องหนึ่งที่แอดมินอยากจะฝากเพื่อน ๆ ก่อนที่จะส่งลิงค์มาให้แอดมินกดซื้อคือ อยากให้เพื่อน ๆ เช็คฟีดแบคของคนขายกันสักนิด ว่าฟีดแบคของคนขายมีมากน้อยแค่ไหนแล้ว เนื่องจากว่า มีบางคนขายที่เป็นมิจฉาชีพ แอบแฝงตัวมาเป็นคนขายก้มี แอดมินอยากจะให้เพื่อน ๆ สังเกตุกันสักนิดนะจ๊า ส่วนวิธีการสังเกตุฟีดแบคดูได้จากตรงไหน แอดมินได้ทำเครื่องหมายขีดเส้นใต้ไว้ตรงฟีดแบที่คนขายได้ มาให้เพื่อน ๆ ดูเป็นตัวอย่างกันนะคะ
สังเกตุเส้นลูกศรสีเขียว ตรงนั้นคือชื่อคนขายแอดมินขอกาทับไม่ให้เห็นชื่อคนขายนะคะ ส่วนลูกศรสีแดง เพื่อนๆ ดูที่เป็นหน้ายิ้มนะคะ นั่นหมายความว่าคนขายคนนี้มีฟีดแบคทั้งซื้อ – ขายมาแล้ว มีคนให้ฟีดแบคว่าดีมา 52 ครั้ง ส่วนที่เป็นหน้าเฉย มี 2 ครั้ง คือ ไม่ดี แต่ก็ไม่แย่ และรูปสุดท้ายคือหน้าบึ้ง 1 ครั้ง คือมีคนให้ฟีดแบคมาว่าไม่พอใจในบริการหรือสินค้าจ๊า ก็อาจจะมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย ถึงได้ได้หน้าบึ้งมา 1 ครั้ง แอดมินอยากให้เพื่อน ๆ ที่สนใจฝากซื้อของกับเว็บเมอคารี่ช่วยดูฟีดแบคคนขายด้วยนะจ๊า ถ้าได้หน้ายิ้มเยอะ ๆ ยิ่งดี ถ้ามีหน้ายิ้มมากกว่า 100 ขึ้นไปจะดีมาก แสดงว่าคนขายมีความน่าเชื่อถือ แต่ถ้าคนขายคนไหนได้หน้ายิ้มน้อย ๆ ทั้งนี้เพื่อน ๆ อาจคลิ๊กเข้าไปตรงชื่อคนขายเข้าไปดูว่า คนขายคนนี้มีสินค้าลงขายอย่างอื่นไหม มีมากน้อยแค่ไหน ก็สามารถเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจได้อีกทางหนึ่งจ๊า
อีกเรื่องหนึ่งที่แอดมินอยากจะฝากถึงลูกค้าทุก ๆ ท่านคือ หากกดซื้อแล้ว ไม่สามารถยกเลิกได้นะจ๊า เพราะฉะนั้นก่อนที่เพื่อน ๆ จะส่งลิงค์มาให้แอดมินกด กรุณาพิจารณาอย่างถี่ถ้วนว่าสินค้านี้เราชอบไหม มีชิ้นอื่นที่ชอบมากกว่าชิ้นนี้หรือเปล่า เมื่อเพื่อน ๆ ตัดสินใจดีแล้วค่อยส่งลิงค์มาให้แอดมินกดนะจ๊า เพราะว่า เคยมีลูกค้าฝากแอดมินซื้อไปแค่ 3 ชม. มาขอให้แอดมินติดต่อคนายเพื่อขอยกเลิก เนื่องจากเปลี่ยนใจอยากได้ชิ้นอื่นมากกว่า กรณีนี้ไม่สมควรอย่างมากนะจ๊า นึกถึงใจเขาใจเรา ถ้าเราเป็นคนขายจะรู้สึกอย่างไร และมันไม่ใช่แค่ขอยกเลิกแล้วไม่เป็นอะไรนาจ๊า มันจะมีผลตามมาคือ คนขายไม่พอใจ ส่งข้อความมาต่อว่า เท่านั้นยังไม่พอ คนขายบล๊อคไอดีแอดมินอีกด้วย ซึ่งเป็นการตัดโอกาสลูกค้าท่านอื่น ๆ ที่อาจจะสนใจฝากซื้อสินค้ากับคนขายคนนี้อีกด้วยนาจ๊า แอดมินอยากฝากเรื่องนี้กับเพื่อน ๆ ไว้ด้วยนาจ๊า ไม่ว่าเว็บไหนนะคะ ไม่ใช่เฉพาะเมอคารี่ เว็บอื่น ๆ เช่นกันจ๊า ^^
ก็หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับเพื่อน ๆ ไม่มากก็น้อย ช็อปให้สนุก ช็อปให้ปลอดภัย ใช้พิจารณาในการดูฟีดแบคคนขายกันด้วยจ๊า ^^
- Published in ถูกใจขาช็อป
10 ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวจากญี่ปุ่น ที่สาวๆไม่ควรพลาด!!!
หลายคนคงทราบกันดีว่า ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวของญี่ปุ่นมีชื่อเสียงไปทั่วโลก ทั้งในด้านคุณภาพประสิทธิภาพและนวัตกรรม ไม่เฉพาะแต่สินค้าที่มีราคาสูงเท่านั้น แต่ยังมีสินค้าราคาถูกมากมายที่สามารถหาซื้อได้ง่ายที่ร้านขายยาส่วนใหญ่ ในบทความนี้ แอดมินได้เลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวยอดนิยม 10 อันดับจากประเทศญีปุ่น คัดสรรจากหลายร้อยรายการสินค้า ด้วยราคาที่หลากหลาย ตั้งแต่เครื่องสำอางค์ร้านขายยาราคาไม่แพง ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัลการันตีคุณภาพ ตามมาอ่านกันได้เลยว่า 10 ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวน่าซื้อในญี่ปุ่น มีอะไรกันบ้าง +++
1. Sumi Haigou Settuken Charcoal Bar Soap
สบู่ก้อนถ่านแท่งของ Sumi Haigou Settuken เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวมันและสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องสิว ถ่านที่นำมาใช้ในผลิตนั้นมาจากกิ่งโอ๊กที่ถูกเผาเป็นเวลาหลายวันจนเป็นถ่านคุณภาพเยี่ยม มีคุณสมบัตช่วยดึงสิ่งสกปรกออกจากรูขุมขนพร้อมดูดซับความมันส่วนเกิน นอกจากช่วยทำให้ผิวของสะอาดแล้วยังมีส่วนในการช่วยปรับสภาพผิวอีกด้วย เลิศมาก เอาไป 4.5 ดาววววววว
2. Shiseido Perfect Whip Face Wash
วิปโฟมล้างหน้ายอดขายอันดับ 1 จากญี่ปุ่น 9 ปีซ้อน เป็นที่ชื่นชอบครองใจผู้ใช้มานาน เพราะราคาประหยัด แต่คุณภาพคับแก้ว ช่วยทำความสะอาดล้ำลึกและอ่อนโยน บำรุงผิวด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์จากสารสกัดไวท์โคคูน หรือรังไหมสีขาว และดับเบิ้ลไฮยาลูรอนิค ให้ผิวดูเนียนนุ่มชุ่มชื่น เหมาะสำหรับผิวแห้ง และ ผู้ที่มีปัญหาเรื่องสิว ใช้เเล้วหน้าเด้งดึ๋งงงง มันนุ่มมากกกกก
3. DHC Deep Cleansing Oil
คลีนซิ่งออยล์ ที่ได้รับความนิยมและเป็นผลิตภัณฑ์ขายดีจากญี่ปุ่น ช่วยทำความสะอาดเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกได้อย่างอ่อนโยน ล้ำลึกถึงรูขุมขน สกัดจากน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ , วิตามินอี, Rosemary เป็นต้น ทำให้ล้างเครื่องสำอางที่ติดทนนานๆ และสิ่งสกปรกได้อย่างหมดจดและอ่อนโยนโดยไม่ทำร้ายผิว
4. Hadalabo Shirojyun Albutin Lotion
Hadalabo เป็นแบรนด์ญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และโลชั่น Shirojun Albutin ของ Hadalabo ก็เป็นหนึ่งในโทนเนอร์ที่ดีที่สุดในตลาดญี่ปุ่น ด้วยส่วนผสมที่อ่อนโยนต่อผิว มีคุณสมบัตที่ช่วยรักษาความชุ่มชื้นในผิวได้อย่างดีเยี่ยม โทนเนอร์นี้จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายและผู้ที่มีรอยดำจากสิว
5. Muji Compressed Face Lotion Sheet
ชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าควรมาสก์หน้าอย่างน้อย 3 นาทีทุกวัน แผ่นมาสก์หน้าจึงเป็นที่นิยมและขายดีในญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน แลแผ่นโลชั่นบำรุงผิวหน้าของ Muji นั้นเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมในญี่ปุ่น ด้วยลักษณะแผ่นที่นำมาบีบอัดมาเป็นเม็ดเล็ก ๆ หลายคนที่ยังไม่เคยใช้เจ้าแผ่นมาสก์หน้านี้ แอดมินบอกก่อนนะจ๊าว่าเจ้าแผ่นนี้ต้องแช่ใน “โลชั่น” AKA โทนเนอร์เป็นเวลาประมาณหนึ่งนาทีจนกว่าจะขยายออกเป็นแผ่น จึงนำมาใช้ได้นะจ๊า อาจจะเปลืองโทนเนอร์หน่อย แต่ผลที่ได้เลิ๊ศมากกก
6. Shiseido Anessa Perfect UV Sunscreen
ครีมกันแดดสีทองยอดนิยมสูตรปรับปรุงใหม่ ใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย ช่วยกันแดด กันน้ำ กันเหงื่อ ติดทนตลอดวัน ด้วยเทคโนโลยี Aqua Booster ที่ทำให้เนื้อครีมบางเบา แต่สามารถปกป้องผิวคุณจากแสงแดดได้นานขึ้นถึง 8 ชั่วโมง สามารถปกป้องผิวได้จากทั้งรังสี UV-A และ UV-B ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดฝ้ากระ จุดด่างดำ และทำให้ผิวแห้งกร้านอีกด้วย ปกป้องดูแลผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
7. Lululun Rich Moisture Face Masks
Lululun เป็นหนึ่งในมาสก์หน้าที่ขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ด้วยส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นถึง 12 ชนิด ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวของคุณเปล่งประกายสดชื่น นุ่ม เด้งตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้
8. Cure Natural Aqua Gel
ผลิตภัณฑ์ยอดนิยมอันดับ 1 จาก Cosme ญี่ปุ่น และขายดีต่อเนื่องอย่างยาวนาน! เจลขัดผิวสูตรอ่อนโยน ช่วยขจัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพอันเป็นสาเหตุของผิวหมองคล้ำ สิวอุดตัน ผิวหยาบกระด้าง Cure เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ขัดผิวที่อ่อนโยนที่สุด ผลิตภัณฑ์นี้จะช่วยขจัดสิ่งตกค้างบนใบหน้า และเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกอย่างอ่อนโยนเพื่อให้ผิวของคุณนุ่มและมีสุขภาพดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวอีกด้วย
9. Biore Makeup Remover Perfect Oil
ผลิตภัณพ์ขายดีอันดับ 1 จากญี่ปุ่น เนื้อออยล์ประสิทธิภาพเยี่ยม ทำความสะอาดอย่างเหนือชั้นกว่าเพียงนวดเบาๆ ก็สลายคราบเครื่องสำอางชนิดกันน้ำติดทนนาน ได้อย่างล้ำลึก แม้มาสคาร่าหรืออายไลน์เนอร์กันน้ำ ใช้ได้แม้ในขณะมือและหน้าเปียก โดยประสิทธิภาพทำความสะอาดไม่ลดลง ไม่ทิ้งความมันเหนอะหนะหรืออุดตันรูขุมขน สะอาดหมดจด พร้อมกลิ่นหอมสดชื่นนนนนนน
10. Eaude Muge Medicinal Lotion
Eaude Muge ของ Kobayashi Pharmaceutical เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมและเชื่อถือได้ในญี่ปุ่นมากว่า 50 ปี โลชั่นนี้ใช้แล้วเช็ดออก สามารถช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่อยู่บนผิว ในขณะที่รักษาผิวของคุณให้สะอาด ผลิตภัณฑ์นี้เป็นที่ชื่นชอบของคนที่มีปัญหาเรื่องสิวเป็นอย่างมาก เพราะช่วยกำจัดแบคทีเรียสิ่งสกปรก , น้ำมันส่วนเกินบนผิว และเครื่องสำอางค์ออกได้อย่างสะอาดดีเยี่ยม!!!
- Published in รีวิวผลิตภัณฑ์
ย้อนรอย กระเป๋า FREITAG นี้ที่ครองใจคน (ฮิปๆ) เกือบทั้งโลก
ใครจะคิดว่า “ผ้าคลุมรถบรรทุก” จะกลายมาเป็นผ้าใบกระเป๋า
“ยางในรถจักรยาน” จะมาเป็นชิ้นส่วนสำคัญ
เช่นเดียวกับ “ที่รัดเข็มขัด” จะมาเป็นล็อกกระเป๋าได้
ถ้าไม่เห็นด้วยตา ก็อย่าเพิ่งเชื่อค่ะ
นั่งทาแมชชีนย้อนกลับไปเมื่อปี 1993 สองพี่น้องตระกูล Freitag (ไฟร-ทาร์ก) คำว่า FREITAG มีรากศัพท์มาจากภาษาเยอรมัน ดาเนียลเล่าอธิบายการออกเสียงของแบรนด์ให้ฟังว่า
“ถ้าพูดด้วยสำเนียงเยอรมันหรือสวิส จะออกเสียงว่า ‘ฟราย-ทาก’ แต่จริง ๆ แล้วจะอ่านว่าอะไรก็ได้ไม่ว่ากัน (หัวเราะ) ‘Freitag’ เป็นภาษาเยอรมันแปลว่า วันศุกร์ ซึ่งเป็นวันทำงานวันสุดท้ายก่อนที่จะเริ่มวันหยุดสุดสัปดาห์ คนเรามีความรู้สึกดีๆ กับวันศุกร์อยู่แล้ว และคำนี้ก็ยังเป็นนามสกุลของผม ย้อนกลับไปตอนที่ผมกับพี่ชายพยายามหาชื่อเจ๋ง ๆ ให้กับแบรนด์ เราพยายามคิดชื่อใหม่ ๆ ขึ้น จนมีเพื่อนของเราคนหนึ่งบอกว่า ‘พวกนายมีชื่อที่ดีอยู่แล้ว ทำไมไม่ใช้เสียเลย’ เราก็เลยเรียกผลิตภัณฑ์ของเราว่า FREITAG ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา”
จากความคิดของสองพี่น้องดีไซน์เนอร์ มาคัส และ ดาเนียล ฟรายทาก (Markus and Daniel Freitag) โดยพวกเขาทั้งสองเกิดในครอบครัวแถบชนบท ส่งอิทธิพลให้ทั้งสองใส่ใจสิ่งแวดล้อมและรักธรรมชาติ จุดเริ่มต้นของไอเดียจริง ๆ เกิดในช่วงเริ่มทำงานแรก ๆ มาคัสเป็นนักออกแบบดิสเพลย์หน้าร้าน ส่วนคนน้องทำงานเป็นกราฟิกดีไซเนอร์ สิ่งที่ประสบร่วมกันคือพวกเขาทั้งสองปั่นจักรยานไปทำงานทุกวัน และต้องทนกับฝนที่ตกเป็นประจำในนครซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ กระเป๋า Messenger Bag ที่มีขายในตลาดก็ไม่ตอบโจทย์การใช้งานทั้งความทนทานและการกันฝนให้กับพวกเขา ดังนั้นเขาจึงเริ่มมองหากระเป๋าที่สะดวกสำหรับการปั่นจักรยาน โจทย์คือต้องทนทาน กันน้ำ และมีดีไซน์สวย สุดท้ายพวกเขาก็ตัดสินใจลงมือทำกระเป๋าในจินตนาการขึ้นเอง ซึ่งไอเดียมาหยุดลงตรงที่ผ้าใบคลุมรถบรรทุกที่เห็นอยู่ทุกวันจากวิวหน้าต่างห้องพัก ผ้าใบถูกนำมาทำความสะอาด ตัดเย็บในห้องพักของพวกเขา มาคัสเล่าว่า“ เราต้องการกระเป๋าที่แข็งแรงและกันน้ำ ในปี 1993 เรายังไม่มีอินเทอร์เน็ตที่จะใช้สืบค้นวัสดุที่ต้องการได้ บังเอิญที่วิวจากห้องครัวของเราทำให้เห็นรถบรรทุกและผ้าใบที่หมดอายุการใช้งานแต่สภาพยังดี แล้วหลังจากนั้นก็อย่างที่ทุกคนคงรู้กันอยู่แล้ว ” (จากบทสัมภาษณ์ในนิตยสาร a day BULLETIN ฉบับที่ 431)
จากจุดเริ่มต้นเมื่อยี่สิบปีก่อน สองพี่น้องตระกูล Freitag ก็ให้คำมั่นสัญญากับตัวเองว่า จะสร้าง แบรนด์สินค้าของตนจากขยะรีไซลเคิลทั้งหมด ให้กลายมาใช้ประโยชน์ได้จริง จึงทำให้โรงงานของ Freitag ที่ชื่อว่า F-actory มีกระบวนการผลิตที่ต่างจากโรงงานผลิตกระเป๋าทั่วไป ผ้าคลุมรถบรรทุกกว่า 350 ล้านตัน ถูกส่งเข้ามาที่โรงงานของ Freitag ในแต่ละปี ทุกผืนถูกล้างด้วยน้ำฝนที่ตกจากฟ้า (เรียกได้ว่ารีไซเคิลทุกขั้นตอนกันเลยละค๊า) ของเมืองซูริค ผ่านแทงค์เก็บน้ำ และเครื่องซักผ้าขนาดใหญ่ หลังจากคราบไคลหมดสิ้นไป ผ้าใบก็จะถูกส่งไปที่แผนกดีไซน์ ซึ่งจะตัดต่อผ้าใบให้กลายเป็นกระเป๋ารูปแบบต่าง ๆ กว่า 40 ชนิด
ซึ่ง กระเป๋าทุกใบมีเอกลักษณ์ของตัวเอง เสน่ห์ที่สำคัญของกระเป๋า FREITAG นอกเหนือไปจากการนำวัสดุเหลือใช้มาทำประโยชน์สูงสุดแล้วนั้น ยังมีเอกลักษณ์ของตัวเองที่ไม่เหมือนกันในแต่ละใบ ผ้าใบจากรถบรรทุกแต่ละผืนล้วนมีร่องรอยแตกต่างกัน ลวดลายที่เกิดขึ้นบนกระเป๋าจึงไม่สามารถคาดเดาได้ ทำให้ผู้ที่ครอบครองรู้สึกเหมือนเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้คนเดียวในโลกพูดง่าย ๆ คือ ไม่มีสักใบที่จะเหมือนกัน ( คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไปสุด ๆ ไม่มีใครเหมือนฉันและฉันก็ไม่เหมือนใครไปอี๊กกก ) โดยสองพี่น้องเข้าใจจุดนี้หลังจากได้ชมภาพยนตร์ Wild at Heart ของ David Lynch ซึ่งตัวเอกในเรื่องกล่าวประมาณว่า ‘เสื้อแจ็กเก็ตหนังงูคือสิ่งที่แสดงความเป็นตัวตนของผม’ แน่นอนสองพี่น้องนำความอยากแตกต่างของคนยุคนี้มาใช้ ซึ่งคุณลักษณะเช่นนี้ถูกจริตกับกลุ่มคนที่นิยมอัตตาลักษณ์ของตัวเอง เช่น ศิลปิน วัยรุ่น และแฟชั่นนิสต้าทั่วโลก จนทำให้บางคนหลงใหลแบรนด์นี้อย่างถอนตัวไม่ขึ้นบางคนถึงกับมีสะสมมากถึง 300-400 ใบเลยทีเดียว
เรียกว่าเป็นอิภิมหาอลังการดาวล้านดวงในความเป็นสตอรี่ ถึงกับต้องร้องว้าวววว!!! กันเลยใช่มั๊ยละคะ คอนเซ็ปต์แบรนด์มันโคตรเก๋ และปรัชญาอันแรงกล้าที่สตรองแบบสุดๆ วัสดุที่ใช้ทำให้กระเป๋าใบนี้แข็งแรงยิ่งกว่าใบใดในโลก ทนกว่าควายสิบตัวรวมกันนน ถ้าสิบล้อยังใช้ผ้าใบปกป้องของได้ FREITAG ก็ใช้ได้ยันชั่วลูกชั่วหลาน ส่งต่อเป็นมรดกได้อี๊กก เป็นใบเก่าแต่ยังเก๋านะจ้ะเพราะมีใบเดียวในโลก ทนทานแบบเพอร์เฟคแล้วยังอัลลิมิเต็ดอิดิชั่น ทำให้กระเป๋า FREITAG ครองใจคน(ฮิปๆ)เกือบทั้งโลก สำหรับสาวกชาวไทยคนรัก FREITAG อยากมีไว้ครอบครอง ร้านรับฝากซื้อเขามีบริการด้วยน๊า ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้วคลิ๊กหลายครั้งที่ คนเราคิดเล็ก แต่กลับได้ฝันก้อนใหญ่ หรือบางคนคิดใหญ่ แต่ได้ฝันก้อนเล็ก … แต่ที่สุดแล้ว ก็คือการลุกขึ้นมาทำให้ฝันเป็นจริงเป็นที่สำคัญที่สุด ถ้าไม่อยากคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่องไม่อยากตกเทรนต้องมีพกไว้ข้างกายสักใบกันนะค๊า ต้องลองแล้วจะหลงรัก FREITAG
ขอยกย่อง FREITAG แบรนด์กระเป๋ารักษ์โลกที่ยังครองใจคน(ฮิปๆ)เกือบทั้งโลกจวบจนปัจจุบันนี้
- Published in ถูกใจขาช็อป
20 อันดับฟิกเกอร์ที่เห็นแล้วกระเป๋าตังค์สั่น 11 ริกเตอร์!!
1.Nisekoi: Seishiro Tsugumi 1/7 (Japan) ขนาดโดยประมาณ 23 x 6.4 x 3.8 ซม.
เสนอราคาโดยประมาณ 8,787 เยน
2. Starting Life in Another World- Rem Birthday Cake 1/7 Complete Figure ขนาดความสูงโดยประมาณ 13 ซม.
เสนอราคาโดยประมาณ 11,500 เยน
3. Fate/Grand Order – Mash Kyrielight – 1/7 – Grand New Year ขนาดความสูงโดยประมาณ 28 ซม.
เสนอราคา 14,259 เยน
4. Blend S – Sakuranomiya Maika – 1/8 ความสูงโดยประมาณ 14.30 ซม. เสนอราคา 11,111 เยน
5. Fate/Stay Night Saber (England Journey) 1/7 Scale Figure ความสูงโดยประมาณ 23 ซม
6. 4-LEAVES TONY’S HEROINE COLLECTION 1/6 SCALE ความสูงโดยประมาณ 14 ซม.
เสนอราคา 13,800 เยน
7. Armor Girls Project: Super Sonico With Super Bike Robot (10th Anniversary) “NITRO SUPER SONIC (NSS) ความสูงโดยประมาณ 14 ซม. เสนอราคา 11,700 เยน
8. Portrait Of Pirates: One Piece Nami BB Limited Edition ความสูงโดยประมาณ 12.5 ซม.
9. Portrait.Of.Pirates One Piece “LIMITED EDITION” Tadashi Ver.BB_WHITE
ความสูงโดยประมาณ 12.5 ซม. เสนอราคา 9,504 เยน
10. Kobayashi-san chi no Maid Dragon – Tooru – 1/6 – Swimsuit ver. (FOTS Japan)
ความสูงโดยประมาณ 28 ซม. เสนอราคา 13,800 เยน
11. Miho Nishizumi Senshado Zenkoku Koukousei Taikai Winning Flag 1/7 ความสูงโดยประมาณ 34 ซม.
12. Jibril: Great War ความสูงโดยประมาณ 15 ซม. เสนอราคา 18,144 เยน
13. Nendoroid Sora (Kingdom Hearts) ความสูงโดยประมาณ 10 ซม. เสนอราคา 5,000 เยน
14.FATE/GRAND ORDER – FIGURE SHIELDER MASH KYRIELIGHT, AVAILABLE IN CLASSIC
OR LIMITED EDITION ความสูงโดยประมาณ 22 ซม.
15. Fate/Grand Order Lancer (Medusa) 1/7 Scale Figure
ความสูงโดยประมาณ 22 ซม. เสนอราคา 16,000 เยน
16. One Piece – Charlotte Katakuri – Portrait Of Pirates “SA-MAXIMUM” (MegaHouse)
ความสูงโดยประมาณ 23 ซม. เสนอราคา 17,500 เยน
17. Hatsune Miku: Vintage Dress Ver. 1/7 Scale Figure
ความสูงโดยประมาณ 25 ซม. เสนอราคา 16,800 เยน
18. Nendoroid DARLING in the FRANXX Zero Two ความสูงโดยประมาณ 10 ซม. เสนอราคา 5,000 เยน
19. Darling in the Franxx Zero Two 1/7 Scale Figure
ความสูงโดยประมาณ 16.50 ซม. เสนอราคา 10,800 เยน
20. Sword Art Online the Movie: Ordinal Scale – “The Flash” Asuna 1/7 Complete Figure
ความสูงโดยประมาณ 20 ซม. เสนอราคา 17,064 เยน
- Published in ถูกใจขาช็อป
จากรู่นสู่รุ่น กับ Converse All Star
จากรุ่นสู่รุ่น กับ Converse all star
เสื้อยืด กางเกงยีนขาดๆ และรองเท้า Converse ดูจะเป็นสไตล์การแต่งตัวที่มีความชิคอย่างเป็นอมตะ แม้ว่าจะผ่านมาถึง 108 ปีแล้ว แต่ รองเท้า Converse ก็ยังครองใจคนทั้งโลกกันอยู่ วันนี้แอ๊ดเรยขอเสนอออออออ (คิดภาพว่ากำลังทำเสียงเหมือนการ์ตูนโดราเอม่อน 5555++) ตอนนนน ความเป็นมาของรองเท้า Converse..เวิด..เวิด..เวิด..ดดดด ( มีเสียงแอ๊คโค่..นิดหน่อย..)
รองเท้าผ้าใบคอนเวิร์ส มีต้นกำเนิดในปี 1908 ที่รัฐ Massachusetts ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยผู้ก่อตั้งที่ชื่อว่า Marquise Mills Converse ซึ่งขณะนั้นมีอายุ 46 ปี (แค่เริ่มก่อตั้งก็ไม่วัยรุ่นแล้ว) เดิมทีพวกเขาเป็นแบรนด์ที่ทำรองเท้ายาง (Rubber Shoes) สำหรับใส่กันหนาว เรียกว่าไม่มีเค้าความเป็น Converse ยุคปัจจุบันที่เราเห็นๆกันเลยสักกะนิด สิบปีต่อมาในปี 1917เป็นช่วงเวลาที่รองเท้าเล่นกีฬากำลังเริ่มเป็นที่ต้องการในตลาด Converse เองก็พลิกตัวทำรองเท้าเล่นฟุตบอลและเน็ตบอลออกมากับเขาเหมือนกันในชื่อ “Converse All-Star” จนมาดังพลุแตก
ในวันที่นาย Charles Hollis “Chuck” Taylor นักกีฬาบาสเกตบอลเข้ามามีส่วนร่วมในบริษัท ผู้คิดค้นการติดสัญลักษณ์รูปดาวตรงข้อเท้า ถือกำเนิดรองเท้า Converse Chuck Taylor All-Star ทรงหุ้มข้อที่เราคุ้นตากันดีถึงทุกวันนี้ …สิ่งสำคัญที่ Chuck เข้ามาออกแบบให้ในแง่ความเป็นรองเท้ากีฬาก็คือ การเปลี่ยนพื้นรองเท้าที่ช่วยทำให้สามารถเคลื่อนไหวกระโดดหรือวิ่งได้คล่องตัวยิ่งขึ้น และจุดเล็กๆน้อยๆที่ถือเป็นความฉลาดของรองเท้า Chuck Taylor มากๆ คือการดัดแปลงนำเอารูร้อยเชือกรองเท้ามาเพิ่มไว้ตรงส่วนด้านข้างสองรู เพื่อช่วยในการระบายอากาศไม่ทำให้รู้สึกอึดอัดเวลาที่นักกีฬาต้องใส่เล่นบาสนานๆ (ใครเคยสงสัยมั้ย?? ว่ามันมีเอาไว้ให้เชือกที่ไหนร้อยนะ) กลายเอกลักษณ์ที่มองเห็นแล้วรู้ทันทีว่าเป็น Converse
หลังจากการเกิดขึ้นของรุ่น “Chuck Taylor All-Star” ด้วยความเป็นรองเท้าที่เข้าใจหัวอกนักบาสอย่างดีนี่เอง ทำให้ชื่อ Converse เขยิบขึ้นเป็นรองเท้าบาสขายดีแซงหน้าแบรนด์อื่นๆในเวลานั้นขาดลอย… อย่างใน Olympicปี 1936 เป็นปีที่เพิ่งมีการแข่งขัน Basketball เป็นครั้งแรก เชื่อไหมว่านักบาสอเมริกันทุกคนใส่ All-Star สุดแสนจะผูกขาดและสามัคคีอย่างแท้ทรู! นอกจาก Converseในยุคแรกๆจะมี Chuck Taylor All-Star เป็นรุ่นยอดฮิตของพวกเขาแล้ว พวกเขายังมีอีกหนึ่งไม้ตายเด็ด เป็นรุ่นที่ตีคู่กันมาติดๆเลยก็คือ “Jack Purcell” ออกแบบโดยนาย John Edward “Jack” Purcell แชมป์โลกแบดมินตันในเวลานั้น …เดิมที Jack Purcellเป็น
รองเท้าผ้าใบของบริษัท B.F.Goodrich แล้วภายหลัง Converse ค่อยไปซื้อลิขสิทธิ์มาเป็นของตัวเอง …ก้าวสำคัญครั้งนี้เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องอย่างมากถึงมากที่สุด เพราะด้วยดีไซน์ความเรียบง่ายกับเอกลักษณ์พื้นรองเท้าสีฟ้าอ่อนและขีดดำหัวรองเท้าที่มีแต่คนหลงใหล ทำให้ Jack Purcell คืออีกหนึ่ง Converse ที่คนชอบใส่ไม่แพ้ Chuck Taylor All-Star เลยทีเดียว ตั้งแต่นั้นมาอิทธิพลของรองเท้า Converse ที่มีต่อคนหนุ่มและเด็กวัยรุ่นในแต่ละยุคสมัย เหล่า Pop Icon ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นดารา นักแสดงหรือ Rock Starต่างก็นิยมใส่รองเท้าConverse กัน แม้ว่าการเลือกใส่รองเท้าผ้าใบแม้จะดูไม่เป็นทางการก็จริง แต่มันทำให้เกิดลุคที่ใส่ออกมาแล้วดู หล่อ เท่ในแบบสบายๆ ไม่เนี๊ยบจนเกินไป ยิ่งพอมี Icon ที่เป็น Badboy แห่งยุคอย่าง “James Dean” และสัญลักษณ์ความเท่อย่าง “Steve McQueen” หยิบ Jack Purcell มาใส่เท่านั้นล่ะ… เลยเกิดเป็นกระแสการใส่รองเท้าผ้าใบกันครั้งใหญ่ เหมือนเป็นการเปิดตัวให้โลกได้รู้จักรองเท้า Converseในแง่ Itemหลักของสไตล์และแฟชั่นแบบจริงจัง ไม่ใช่เพียงรองเท้าที่เอาไว้สำหรับเล่นกีฬาเหมือนแต่ก่อนเท่านั้น
พอถัดมาช่วงปี 60’s ถึง 70’s …กับแฟชั่นกางเกงยีนส์ขาม้าขากระดิ่งทั้งชายและหญิงที่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าถ้าไม่เลือกเดินเท้าเปล่า… รองเท้าผ้าใบที่เหล่าบุปผาชนเลือกใช้กันต้องเป็น Converse แน่นอน เอาง่ายๆดูอย่างศิลปินรุ่นใหญ่ในยุคนั้น ”George Harrison” มือกีตาร์แห่งวงสี่เต่าทอง “The Beatles” ที่เป็นเหมือนต้นแบบจุดประกายให้กับนักดนตรีหลายๆคน กระโดดมาต่อกันในช่วงเข้าสู่ยุค 80’s ซึ่งเป็นยุคของชาว “Punk” คุณอาจคิดว่าลุคชาวพังค์เขาต้องมาพร้อมกับบู๊ทหนังหรือพวกรองเท้า Combat ขอบหนาๆใช่ไหม? แต่หารู้ไม่ว่าตัวพ่ออย่าง Sid Vicious แห่งวง The Sex Pistol เขาก็เลือกใส่รองเท้าผ้าใบ Converse เท่ๆเหมือนกัน! มาต่อกันที่ ปี 90’s กับการกำเนิดของดนตรีทางเลือก ไม่มีใครไม่รู้จักนาย “Kurt Cobain” นักร้องนำแห่งวง Nirvana หนุ่มผมบลอนด์รูปหล่อ ผู้นำแฟชั่นกางเกงยีนส์ขาดๆใส่คู่กับ Converse Chucks Taylor สีดำหุ้มข้อสุดจะ Grunge สุดจะเขรอะของเขาออกมาให้ชาวโลกได้เห็น แสดงความเป็นเจ้าพ่อแห่งยุค Alternative ได้อย่างคลาสสิคจริงๆ
มาถึงรองเท้า Converse ในยุคปัจจุบัน พวกเขาก็ยังคงไม่หยุดอยู่กับที่ขยันพัฒนาตัวเองอยู่เรื่อยๆเกิดเป็น Converseลายใหม่ๆมากมาย และด้วยความที่โลกเป็นยุคโลกาภิวัฒน์ ทั้งโลกถูกบีบให้แคบลง เพื่อลดต้นทุน… ฐานการผลิตจึงถูกกระจายไปทั่วโลก หนึ่งในนั้นก็มี “Converse Made in Thailand” ของบ้านเราอยู่ด้วย แต่ประเทศที่เห็นจะพิเศษกว่าใครเพื่อนคือไลน์การผลิต Made in Japan คนที่เล่นรองเท้าผ้าใบจะรู้กันดีว่า Converse Made in Japan ต่างกับประเทศอื่นตรงที่ พวกเขาตั้งตนเป็นแบรนด์ต่างหากของตัวเอง เพียงแต่ยังใช้ชื่อและลิขสิทธิ์ของแบรนด์เท่านั้น รองเท้า Converse ที่ผลิตจากญี่ปุ่น จะใช้วัสดุดี ผลิตจำนวนน้อย มีลายเฉพาะรุ่นที่ไม่มีใครเหมือน แถมยังทำให้ดูหายากเข้าไปอีกด้วยการวางขายเฉพาะที่แดนอาทิตอุทัยประเทศญี่ปุ่นเพียงที่เดียว (แต่ถ้าใครอยากมีไว้ครอบครองก็สามารถสั่งได้จากเวปรับหิ้วของญี่ปุ่นได้นะ) ถือเป็นอีกหนึ่งสายที่เหล่านักสะสมชื่นชอบและตามหาเก็บกันไม่แพ้พวก Made in USA และพวก Deadstock รุ่นวินเทจกันเลยทีเดียว
อ่านกันมาถึงขนาดนี้ เชื่อว่าหลายคนคงคิดถึงรองเท้า Converse กับร่องรอยอารยะธรรมของตัวเองกันแล้วหละสิ ( จิงๆมันมีเส้นบางๆกั้นอยู่ระหว่างคำว่า เซอๆ กับ สกปรก นะ 555+++) ว่าแล้วก็…ไปหยิบมาใส่กันเหอะ….แฟชั่นนิสต้าจงเจริญ…ฮู้..วว…วววว…
- Published in ถูกใจขาช็อป
อัพเดท Cosmetic Items ปี 2018
อัพเดท Cosmetic Items ปี 2018 กันหน่อยเจ้าค่ะออเจ้าทั้งหลาย ในบ้านเราตอนนี้ถือว่ามีแบรนด์เครื่องสำอางเกิดใหม่อยู่มากขึ้นกว่ายุคก่อนๆนี้มาก แต่ว่าก็ว่าเถอะ เราก็ยังคงไว้ใจและเชื่อในCosmeticของญี่ปุ่นอยู่ดี ด้วยความคุณภาพคัพแก้วแต่ราคากันเอง อย่างที่เห็นในshop daiso หรือร้าน 60 บาท ที่มาเปิดสาขามากมายในบ้านเรานี่แหละ มีทุกสิ่งให้เลือกสรร รวมไปถึงสินค้ากลุ่ม Cosmetic ต่างๆที่ราคาเริ่มต้นเพียง 60 บาท ไม่ว่าจะผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า ล้างหน้า กันแดด รองพื้น และอื่นๆอีกจำนวนมากนี่แค่เราเห็นในบ้านเราเท่านั้นนะ ครั้งนี้แอ๊ดเลยขอทำการบ้าน รวบรวมเหล่ากองทัพ Cosmetic Items กันแบบจุใจเอาให้ครอบคลุมทุกอย่าง ที่แต่ละอันต่างฮอตฮิตครองใจสาวญี่ปุ่นหลายๆอัน ทั้งราคายังดีงาม คุณภาพคัดเน้นๆ ไม่ซื้อไม่ได้แล้ว โดยเฉพาะพวกร้านขายยาที่โปรโมชั่นดุเด็ดเผ็ดมันส์ตามไปดูกันว่า Cosmetic Item ปี 2018 มีอะไรน่าใช้บ้าง
1. หัวเชื้อไฮยาลูรอน Taiyou No Aloe Hyaluronic Acid
หัวเชื้อไฮยาลูรอนที่มีระดับความเข้มข้นสูงมากๆ ไม่ว่าจะรูขุมขนกว้าง ริ้วรอย รอยดำจากสิว จุดด่างดำ พร้อมเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิวมากกว่าคอลลาเจนถึง 16 เท่า สามารถใช้ร่วมกับเครื่องสำอาง โทนเนอร์ โลชั่น ลิป และมาร์ค everything จิงเกอเบล..เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้มันดีขึ้นไปอี๊กกกก ถ้าคุณกำลังมองหาตัวช่วยที่จะทำให้ผิวพระจันทร์บนหน้าหายไป ตัวนี้ช่วยได้นาจา หน้าเนียนกริ๊บ…จีจี
สนนราคาอยู่ที่ : 10 ml ราคา 500 เยน
2. เจลบำรุงผิว Hatomugi Naturie Skin Conditioning Gel
ตัวนี้นี่จัดมาเอาใจคนผิวแห้งโดยเฉพาะเรยนะ จิงๆสาวไทยส่วนใหญ่ผิวมัน เรยไม่ค่อยมีผลิตภัณฑ์สำหรับคนผิดแห้งซักเท่าไหร่ แนะนำเจลบำรุงผิว Hatomugi Naturie Skin Conditioning Gel สำหรับคนที่ผิวแห้ง เจอแดดทำร้าย แถมยังเป็นสิวอีก ต้องตัวนี้เลยเนื้อเจลไม่เหนอะหนะเลยซักนิด ซึ่งสารสกัดหลักๆมาจากลูกเดือยพร้อมสารสกัดธรรมชาติที่อ่อนโยนต่อผิวมากๆคนที่ผิวแพ้ง่ายนี่ก็ไม่ต้องห่วง เพราะปราศจากสารที่ทำให้ผิวระคายเคืองทั้งปวงไม่ว่าจะ สี กลิ่น สาวๆขี้แพ้ สบายใจได้จร๊า..
สนนราคาอยู่ที่ : 180 ml ราคา 972 เยน
3. เซรั่มเนื้อเจล Shiseido Elixir Superieur Sleeping gel pack W
เซรั่มเนื้อเจลบางใสที่โดดเด่นด้านการต่อต้านริ้วรอยมาก เป็นมาส์กที่ทาก่อนนอนปุ๊บตื่นมาปิ๊งปั๊บ มันจะฟินยิ่งกว่าเจ้าหญิงใน Sleeping Beauty ที่ตื่นขึ้นมาเพราะโดนเจ้าชายจูบเสียอีก ถ้าตอนนี้ผิวหน้าเป็นริ้วยิ่งกว่ากระโปรงอัดพลีท อย่ารอช้าเร่งรีบไปคว้ามาใช้โดยเร็วพลัน ชักช้าไป…หน้ายิ่งแก่นะเออออออ.. แล้วจะหาว่าแอ๊ดไม่เตีอน…น..
สนนราคาอยู่ที่ : 2,800 เยน
4. Nature Conc Medicated Clear Lotion
ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าน้องใหม่ราคาเบาๆแต่คุ้มค่าเกินราคา ทั้งช่วยขจัดเซลผิวเก่า กระชับหน้า และยังช่วยเรื่องสิวอุดตันอีกด้วย สาวๆญี่ปุ่นจัดว่าชอบมากกกก และก็น่าจะทำให้สาวไทยหลงรักได้ไม่ยากเช่นกัน
สนนราคาอยู่ที่ : 200 ml ราคา 980 เยน
5. คลีนซิ่งออยล์ DHC Deep cleansing oil
คลีนซิ่งแบบออยล์ที่ครองใจสาวๆจำนวนมาก ทำความสะอาดดีเยี่ยมโดยไม่ทำร้ายต่อผิว ส่วนผสมหลักจะเป็นน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์และสารสกัดอื่นๆที่มาจากธรรมชาติล้วนๆ เครื่องสำอางจะแน่นแค่ไหนกันน้ำแค่ไหนก็บ่หยั่น อันนี้ส่วนตัวแอ๊ดชอบมากกกก ด้วยความเป็นคนขี้เกียจขั้นสุด บอกเรยว่าใช้ตัวนี้ล้างเครื่องสำอางค์ตัวเดียวแล้วจบ..มาสคารากันน้ำที่ว่าแน่ ยังต้องแพ้ DHC Deep cleansing oil นะเธอ
ราคาประมาณ : 200 ml. ราคา 662 เยน
ของทุกชิ้นในที่มาอัพเดทกันนั้น การันตรีว่า เด็ดจิง ถูกจิง ฮิตจิงในญี่ปุ่น แต่ไม่มีขายในไทยจร๊า…. เอาเป็นว่าอย่าเพิ่งเสียใจกันไป สั่งจากเวปรับหิ้วกันไปโล๊ดดดด…อย่าให้อุปสรรค์อันใดมาขวางความสวยของออเจ้าได้….ตอนนี้พอแค่นี้ก่อน เด๋วแอ๊ดไปหาของดีของเด็ดใหม่ๆมาเม้าท์มอยต่อในครั้งหน้านะแจ๊ะ จุ๊ฟๆๆ
- Published in รีวิวผลิตภัณฑ์
ครัชเกียร์คันแรก จุดเริ่มต้นของนักสะสม Crush Gear
ถ้าพูดถึงการ์ตูนของเล่นที่ประทับในความทรงจำของเด็กยุค ’90s ก็คงมีอยู่ไม่กี่เรื่อง รถแข่งทามิยา…ลูกข่างเบย์เบลด แล้วก็รถแข่งที่ต้องพุ่งชนๆ เสียบๆ กันจนกว่าจะหงายท้องหรือออกนอกสนามไปข้างนึง นั่นก็คือ…ครัชเกียร์!! อย่าไปคำนวนอายุนะ เด๋วรู้หมดว่าคนเขียนอายุเท่าไหร่ 555555+++ เขิลจุง
นับแต่ครัชเกียร์ เทอร์โบ ได้ออกอากาศในประเทศไทยเมื่อปี 2546 ทางช่อง 9 อ.ส.ม.ท. (ลิขสิทธิ์โดยการ์ตูน มีเดีย หรือปัจจุบันคือการ์ตูน คลับ มีเดีย) ผ่านมาสิบกว่าปี ชาวไทยก็ได้รับข่าวดีเมื่อการ์ตูนรถแข่งเรื่องนี้จะได้มาฉายทางทีวีอีกครั้ง รอบนี้ฉายทางช่องเวิร์คพอยต์ (ช่อง 23) ลิขสิทธิ์โดยเด็กซ์ และหลายท่านอาจจะไม่รู้ว่าการ์ตูนเรื่องนี้มีมังงะตีพิมพ์เป็นภาษาไทยโดยบงกชด้วย และเพื่อตอบสนองติ่งครัชเกียร์ทุกๆคนจึงขอแนะนำมังงะเรื่องนี้พร้อมกับพาคุณผู้อ่านย้อนความทรงจำเกี่ยวกับครัชเกียร์ตัวแรกกันดีกว่า
เรื่องราวของครัชเกียร์ เทอร์โบ เริ่มต้นที่โทบิตะคลับ ค่ายครัชเกียร์แห่งหนึ่งซึ่งกำลังระส่ำระส่าย เนื่องจาก มาริโนะ ยูยะ เด็กหนุ่มเกียร์ไฟเตอร์มือวางอันดับหนึ่งของค่ายเกิดเสียชีวิตกระทันหันก่อนแข่งทัวร์นาเมนต์ระดับโลก เมื่อสูญเสียพี่ชายไป มาริโนะ โคยะ น้องชายแท้ๆ ของยูยะก็มุ่งมั่นอยากสานฝันแชมเปี้ยนของพี่ชายให้ได้ โดยใช้ การูดา อีเกิ้ล เกียร์ที่สืบทอดจากพี่ชายนั่นถือเป็นครัชเกียร์ตัวแรก และยังมีอีกหลายตัวตามมาหลังจากนั้น ซึ่งเดี๋ยวเราจะทะยอยๆนำมาลงให้คุณผู้อ่านได้อ่านกันนะแจ๊ะ
เรามาดู การูดา อีเกิ้ล ของ Bandai กันดีกว่า จิงๆคอนเส็ปของเจ้าตัวนี้ก็ตรงตัวตามชื่อของมันอะนะ คือ อีเกิ้ล ก็แบบว่าเป็นนกอะก็จะสามารถบินได้นั้นเอง ฉันจะบินๆไปสู่เวหาลั้นลาลั้ลา….ตัวบอดี้จะสีออกฟ้าๆ ติดปีกๆหน่อย ลักษณะพิเศษคือจะมีลักษณะเหมือนนักรบยุโรปหน่อยๆ อาวุธทำลายล้างคือดาบ เวลาที่ล้อหมุนดาบก็จะขยับ วะฮะฮะฮะฮา…..(เอิ่ม..เสียงหัวเราะดูตัวร้ายไปหน่อยเนอะ) การสปินของการูด้า อีเกิ้ล บอกได้คำเดียวว่า สวยงามมมมมม
จะว่าไป การูด้า อีเกิ้ลนั่นคือจุดเริ่มต้น แต่ต่อมา โคยะก็มี Crush Gear ที่เป็นของตัวเองจิงๆ นั้นก็คือ การูดา ฟีนิกซ์ เกียร์ของโคยะซึ่งเคียวสุเกะสร้างให้หลังจากการุดา อีเกิ้ล เสียหายจากการแข่งขันในระดับที่ซ่อมไม่ได้อีก ฟีนิกซ์ถูกพัฒนาให้มีพลังโจมตีรุนแรงและรวดเร็วกว่าอีเกิ้ล เพื่อให้ต่อกรกับคู่แข่งตัวฉกาจอย่าง ไกคิ ของมันกันจิได้ ท่าไม้ตายคือ “ไชน์นิ่ง ซอร์ด เบรกเกอร์” คือท่าของบูมเมอแรง นั่นเอง
ทีนี้เรามาดู การูด้า ฟินิกซ์ ของ Bandai กันบ้างนะ เอาจิงๆมันคือร่างที่สองของ การูด้า อีเกิ้ล เพราะฉะนั้นมันก็จะมีความคล้ายกันตรงความเป็นนก ออกแนวบินๆเหมือนกัน แต่ก็จะมีความแตกต่างอยู่หลายจุด อย่างที่แรกก็คือ หน้ากาก เจ้าตัว การูด้า ฟินิกซ์ นั้นจะถูกออกแบบมาให้มีความซับซ้อนกว่า มีครีบฉลามด้านบนยาวไปถึงด้านหลัง และมีสีสันมากขึ้น ซึ่งส่วนตัวแล้วแอ๊ดชอบมากกว่านะ 5555+++ แบบว่ามันดูเท่กว่าอ่ะ ตัวปีกก็มีขนาดที่ยาวขึ้นแต่แทนที่จะกางเป็นปีกออกมา ตัวฟินิกซ์มีปีกที่แนบข้างลำตัว เพื่อเพิ่มความลู่ลมเพิ่มความเร็วให้มากขึ้น ตัวโล่ห์ป้องกันที่อยู่ด้านหน้าขนาบข้างกับดาบทั้งสองข้าง ก็จะมีลักษณะแบนออก ตัวดาบของฟินิกซ์ก็จะมีความแตกต่างในเรื่องของความแข็งแรงขึ้น ดาบของฟินิกซ์จะใหญ่กว่า
มาดูกันที่ด้านข้างกันนะครัช ล้อของฟินิกซ์กันบ้าง เรียกว่าต่างกันอย่างโดดเด่นทีเดียว เพราะล้อของฟินิกซ์จะเป็น 4 แฉก โฉบเฉี่ยวมากมายหละตะเองงง หางของฟินิกซ์นี่เหมือนกับหางนกลักษณะเหมือนขนนกเลยทีเดียว รูปร่างของฟินิกซ์จะค่อนข้างอูมเต็มไม้เต็มมือทีเดียว ในส่วนของด้านหลังของฟินิกซ์นั้น ก็มีอาวุธเพิ่มขึ้นมาจากร่างแรก โดยรวมๆแล้ว เจ้า การูด้า ฟินิกซ์นั้น ก็จะแตกต่างจาก การูด้า อีเกิ้ลตรงบอดี้มากกว่า เพราะส่วนอื่นๆก็เหมือนๆกัน อย่างฝาครอบถ่าน ปุ่มเปิด-ปิด เอาเป็นว่า เป็นสองพี่น้องคลานตามกันออกมา ก็จะคล้ายๆกันหน่อยนั่นแหละ
เป็นไงกันบ้างจ๊ะ กับCrush Gear ที่เป็นจุดกำเนิดถือว่าตัวนี้มันคือตำนานเลยน้า…ก็อย่างที่บอกไปนั่นแหละว่า มันยังมีให้คุณได้ติดตามอีกเยอะ เด๋วจะทะยอยๆเอามาคุยกันน้า….
ว่าแล้วก็พร้อมลุยกันแล้วใช่ไหม?
เกียร์ไฟต์ เซ็ตอัพ!
เรดี้……..
โก!!!!!!!!!!
- Published in ถูกใจขาช็อป
สาวกวันพีช ONE PIECE ห้ามพลาด กับสินค้าใหม่ที่กำลังจะออกวางตลาดปี 2018
คงเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่า สินค้าวันพีช ONE PIECE เป็นที่ชื่นชอบของหลาย ๆ คน ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่จากทั่วทุกมุมโลก การ์ตูนวันพีช ONE PIECE เป็นการ์ตูนที่ได้รับการตีพิมพ์ที่สุดในโลก โดยตีพิมพ์ไปมากกว่า 320 ล้านเล่มทั่วโลกระหว่างปี พ.ศ. 2540 ถึงปัจจุบัน จึงทำให้มีตัวละครจากการ์ตูนวันพีช ONE PIECE ออกมามายมายหลายเวอร์ชั่นให้แฟน ๆ ได้สะสมกัน แอดจึงรวบรวมสินค้าวันพีช ONE PIECE ที่กำลังจะออกวางจำหน่ายในปีนี้มาให้เลือกชม เลือกซื้อกันนะจ๊า
One Piece Waso Komachi – Nami
Banpresto กำลังออกไลน์สินค้าใหม่ เรียกว่า Waso Komachi โดย Nami จะสวมชุดกิโมโน และมีให้เลือกทั้งสีชมพู “Standard Color” และ “Special Color” สีเขียว ขนาดสูง 7.8 นิ้ว
เสนอราคาอยู่ที่ ¥ 1,300 เยน โดยมีกำหนดวันวางจำหน่าย เดือนกุมภาพันธ์ 2018
One Piece – Portgas D. Ace III
Ace รุ่นที่สามนี้ สร้างขึ้นโดย King of Artist Series ความสูงประมาณ 7.8 นิ้ว เสนอราคาอยู่ที่ ¥ 1,300 เยนโดยมีกำหนดวันวางจำหน่าย เดือนกุมภาพันธ์ 2018
One Piece – Word Collectable Figure – History Relay 20th Anniversary Volume 4
เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 20 ปีของวันพีช One Piece ได้มีการออกสินค้าใหม่ชื่
โดยเสนอราคาอยู่ที่ ¥ 4,980 เยน โดยจะออกวางจำหน่ายในครึ่งปีแรก 2018
One Piece – Monkey D. Luffy Gear 4 Vol. 1 By Plex
PLEX จะวางจำหน่าย One Piece Archive Collection Gear 4 Vol. 1 ออกมาในชื่อ Monkey D. Luffy ความสูง 36 ซม.เสนอราคาอยู่ที่ 23,760 เยน
กำหนดวางจำหน่ายในเดือนมิถุนายน 2018
One Piece – Tony Tony Chopper Crimin Ver 20th Anniversary
Megahouse จะออกวางขายสินค้าใหม่ P.O.P (Portrait.Of.Pirates) “Sailing Again” ความสูงโดยประมาณ 8.5 ซม. เสนอราคาอยู่ที่ ¥ 4,256 เยน
กำหนดวางจำหน่ายเดือนมกราคม 2018
One Piece – Nico Robin By Megahouse
Megahouse กำลังจะออกวางจำหน่ายสินค้าใหม่ P.O.P Limited Edition “Nico Robin” ความสูง 8.5 ซม. เสนอราคาอยู่ที่ ¥ 10,098 เยน
โดยมีกำหนดวางจำหน่ายในเดือน พฤษภาคม 2018
One Piece – Sabo -Fire Fist- Figuarts Zero by Bandai
สินค้าใหม่จาก Bandai ที่กำลังจะออกวางจำหน่ายเร็ว ๆ นี้ มีชื่อว่า The Figuarts Zero Sabo – Fire Fist ความสูง 19 ซม. เสนอราคาอยู่ที่ 5,000 เยน
มีกำหนดวางจำหน่ายในเดือนเมษายน 2018
One Piece – Nami 60cm doll by Smart Doll
Smart Doll มีกำหนดวางจำหน่ายสินค้าใหม่ Nami ความสูง 60 ซม. เสนอราคา 73,116 เยน ซึ่งสินค้าได้ออกวางจำหน่ายแล้วในเดือนมกราคม 2018
The Variable Action Heroes Nami Summer Vacation สินค้าใหม่จาก Megahouse ความสูง 16 ซม. เสนอราคา 8,200 เยน
ซึ่งมีกำหนดวางจำหน่ายในเดือนกุมภาพันธ์ 2018
One Piece – Knight of the Sea Jimbei P.O.P “SA-Maximum” by Megahouse
P.O.P “SA-Maximum” Knight of the Sea Jimbei สินค้าใหม่จาก Megahouse ความสูง 24 ซม. เสนอราคา 19,980 เยน
มีกำหนดวางจำหน่ายในเดือนมีนาคม 2018
One Piece – Trafalgar Law -Gamma Knife- Figuarts Zero by Bandai
The Figuarts Zero Trafalgar Law -Gamma Knife สินค้าใหม่จาก Bandai ความสูง 17 ซม. เสนอราคา 4,500 เยน
มีกำหนดวางจำหน่ายในเดือนมีนาคม 2018
One Piece – Don Quixote Doflamingo [Premium Bandai Exclusive] Standard Color/Ver.B One Piece Archive Collection No. 7 by PLEX
Don Quixote Doflamingo By Plex ความสูง 20 ซม. เสนอราคาอยู่ที่ 23,760 เยน กำหนดวางจำหน่ายในเดือนกุมภาพันธ์ 2018
One Piece – Monkey D. Luffy Another Showing P.O.P Kabuki Edition by Megahouse
P.O.P Kabuki Edition Monkey D. Luffy By Megahouse ความสูง 19 ซม. เสนอราคา 16,799 เยน มีกำหนดวางจำหน่ายในเดือนกุมภาพันธ์ 2018
แอดรวบรวมสินค้าออกใหม่มาให้ได้อ่านกัน หวังว่าคงพอจะเป็นแนวทางให้แฟนคลับวันพีช One Piece ได้หาซื้อมาเก็บสะสมไว้ในครอบครองกันนะจ๊า วันนี้พอหอมปากหอมคอแค่นี้ก่อนนะคะ แล้วคราวหน้าแอดจะสรรหาบทความมาให้ได้อ่านกันอีก แล้วอย่าลืมตามมาอ่านกันอีกนะจ๊า \^o^/
- Published in ถูกใจขาช็อป
Gadget ยอดนิยม จากญี่ปุ่นที่เหล่าสาวกต้องตำ…
ประเทศญี่ปุ่น ได้รับการยอมรับว่าเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีมากที่สุดประเทศหนึ่ง จึงทำให้สามารถผลิตสินค้าต่างๆออกมาได้อย่างมีมาตรฐาน และ มีความล้ำสมัยมากๆ เหล่านักกีฬาจึงชอบเหลือเกินที่จะไปหิ้วข้าวของกีฬาต่างๆ อย่างเช่น รองเท้า ไม่ปิงปอง อะไรประมาณนี้ รวมถึงชาว geek ก็ชอบไปอัพเดทอุปกรณ์ล้ำๆมาไว้ในครอบครองเช่นกัน เรามาดูกันดีกว่าค่ะ ว่ามีอะไรล้ำๆที่เราควรตามกันบ้าง..let’s go….
1. USB Cooler Cushion ชื่อภาษาไทยไม่มี เอาเป็นว่าขอจำกัดความว่า “เบาะรองตูดเย็น” ด้วยความที่เมืองไทยเป็นเมืองร้อน สำหรับยอดมนุษย์เงินเดือนที่นั่งทำงานทั้งวันจนเหงื่อไหลลงร่องก้น เรียกกว่าเอาซะกางเกงซื้น…น..น..กันเรยทีเดียว มีผลต่อสมองและอารมณ์ คิดงานไรก็ค่อยออก ใครพูดไรไม่ถูกหูก็อาจจะเจอเหวี่ยงได้ เอาเป็นว่า…ลองให้รางวัลกับตัวเองด้วยอุปกรณ์ที่จะเพิ่มความสบายให้กับคุณในการทำงาน อย่างเบาะรองนั่งนี้ เพราะมาพร้อมตัวทำความเย็นที่จะทำให้คุณนั่งเย็นสบายได้ทั้งวัน เวลาเย็นก้นแร้วสมองมันแล่นนะตัวเธออออ…เพียงเสียบสาย USB เข้ากับคอมพิวเตอร์ ซื้อที่ญี่ปุ่นสนนราคาอยู่ที่ $31 หรือประมาณ 950 บาท ในไทยยังไม่เห็นนะจ๊ะตัวนี้ แต่รับฝากหิ้วของจากญี่ปุ่นมาน่าจะได้น้า…..
2. Nintendo Famicom mini และ NES Classic Edition ใครจะไปคิดว่ายุคนี้ เราจะยังตื่นเต้นกับ Gadget ที่จำลองเครื่องเกมโบราณในยุค 80s อย่างเครื่อง Nintendo Famicom ได้ แต่เพราะว่ามันทำออกมาดีนะสิ เราถึงอยากเก็บเป็นของสะสมกัน! Famicom Mini และ NES Classic Edition เป็นเครื่องเกมย่อส่วนจากของจริงที่ออกมาเมื่อ 30 ปีก่อน โดยปรับปรุงระบบให้รองรับกับทีวีรุ่นใหม่ๆ ด้วย จึงมีพอร์ต HDMI และโหมดการปรับภาพที่เลือกได้ว่าจะเลียนแบบภาพจอโค้งในยุคเดิม หรือจะปรับให้คมชัดสูงสุดกับทีวีสมัยใหม่ และยังมาพร้อม 30 เกมชื่อดังในยุคนั้นให้ได้เล่นกัน อย่าง Donkey Kong, Mario 1-3, Zelda 1-2, Rockman 2, Super Contra, Excitebike, Kirby แต่ไม่สามารถเพิ่มเกมใหม่ๆ ลงไปได้ ตัวเครื่องออกมาใน 2 รูปแบบคือ Famicom Mini สำหรับขายในญี่ปุ่นเป็นเครื่องขาว-แดง ที่คนไทยเราคุ้นเคยกันดี มีเกมเฉพาะเครื่องอย่าง Downtown Nekketsu, Solomon’s key ให้เล่น และอีกเวอร์ชั่นคือ NES Classic Edition ก็เป็นรุ่นย่อส่วนของเครื่องที่ขายในยุโรปและอเมริกา มีเกมเฉพาะเครื่องอย่าง Kid Icarus, Punch-Out!!, Castlevania 2 ให้เล่นกันสำหรับราคาขายในต่างประเทศของเครื่องทั้ง 2 รุ่นนี้อยู่ที่ราวๆ 2,000 บาท ส่วนเข้าไทย ราคาก็กระโดดสูงอยู่ ราคาแอบแรงแบบนี้ สั่งหิ้วของจากญี่ปุ่นมาน่าจะถูกกว่า…
3. Thumb-shaped Stylus นวัตกรรมใหม่สุดฮอตฮิตจากประเทศญี่ปุ่น ตอบโจทย์สำหรับคนนิ้วสั้นแต่ชอบใช้โทรศัพท์จอใหญ่ กับเจ้า “นิ้วยักษ์” หรือ “ Thumb-shaped Stylus “ ที่จะช่วยให้ผู้ที่สวมใส่สามารถใช้งานสมาร์ตโฟนจอใหญ่ หรือแท็บเล็ตด้วยมือเพียงข้างเดียวได้สะดวกขึ้นกว่าเดิม เพียงแค่เรานำมาสวมใส่ที่นิ้วของเราเพื่อขยายขนาดให้ใหญ่และยาวขึ้นอีกถึง 15 มม. ( อุ๊ปส..ส..ส..!!! ไม่เอาหน่า..อย่าคิดลึกสิ !!! ) เพียงเท่านี้เราก็จะสามารถใช้งานหน้าจอสัมผัสบนมือถือจอใหญ่หรือแท็บเล็ตด้วยมือเพียงข้างเดียวผ่านทางปากกาสไตลัสที่แอบซ่อนอยู่ในนิ้วยักษ์อันนี้ได้แล้วหละ ใส่แร้วก็ไม่รู้สึกรำคาญนะ เพราะน้ำหนักของมันอยู่ที่ประมาณ 11 กรัมและวางจำหน่ายไปแล้วในประเทศญี่ปุ่นด้วยราคา 1480 เยนหรือประมาณ 470 บาทเท่านั้น (ราคาดีต่อใจ)
คำเตือน : ห้ามนำนิ้วเหล่านี้ไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นเป็นอันขาด 😛
4. Coin Bank กระปุกออมสินญี่ปุ่น ต้องบอกว่ามันคงหมดยุคของกระปุกหมูออมสิน ที่บางเดือนก็มีท้องเสีย ตังไหลออกมาบ้าง แอบเอาค้อนมาทุบเบาๆให้พอมีรูไว้แงะบ้าง เพราะตอนนี้มันคือยุคของกระปุกออมสินที่มันขยับได้ มีความน่ารัก มีกลไก ดูมีอะไร ให้รู้สึกบันเทิงทุกครั้งที่หยอดเงิน มีทั้งแบบเป็นสัตว์น่ารักๆๆไว้ใส่เหรียญ ทั้งเครื่องแคชเชียร์(ไว้ใส่แบงค์ได้) มีหลายลายและก็หลายแบบให้เลือกเชียวหละ ทั้งแมวเก็บเหรียญ (เกิดมาเพื่อเอาใจทาสแมวมากกกกกกกกก) สุนักเก็บเหรียญ หรือแม้แต่ ผ.ผ.ผ.ผี….. ยกตัวอย่างเจ้าแมวเก็บเหรียญก็แล้วกัน กลไกจะเป็นตุ๊กตาแมวซ่อนอยู่ในกล่อง เมื่อเราวางเหรียญตรงหน้ากล่องก็จะมีเสียงแมวร้องแล้วออกมาเอามือเก็บเหรียญไป มองยังไงก็ดีต่อใจ ได้ทั้งออมเงิน ได้ทั้งบันเทิง บ่องตงๆ ชิ้นนี้ซื้อเพราะความตั๊ลล๊ากกกกกก
ราคาก็ไม่แรงนะ เราสามารถซื้อกลับมาเป็นของฝาก หรือสั่งจากร้านรับหิ้วของจากญี่ปุ่นเอามามอบให้เป็นของขวัญได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่เรยหละ
5. USB Alien with Illuminated Tongue ชิ้นนี้เหมาะมากๆ สำหรับใครที่ชื่นชอบเกมส์หรือหนังแนวไซไฟ ตัวประหลาด เพราะเป็นตุ๊กตาเอเลี่ยนที่มากับลิ้นตัวอ่อนที่สามารถยื่นออกมากจากปากของเอเลี่ยนได้ พร้อมไฟสีแดงเพิ่มความน่ากลัว ใช้พลังงานผ่านการเชื่อมต่อ USB กับคอมพิวเตอร์ สำหรับเจ้าเอเลี่ยนที่ว่านี้เป็นแก็ดเจ็ตยูเอสบีทีทำเป็นโมเดลของมฤตยู นอกโลกที่ดูร้ายจนต้องทำออกมาเป็นภาพยนต์หลายต่อหลายภาค ซึ่งเมื่อคุณเสียบมันเข้ากับพีซี กลไกภายในจะสุ่มการทำงาน โดยเอเลี่ยนจะเปิดปากออกมาพร้อมกับยื่นชุดเขี้ยวฟันขนาดเล็กออกมา พร้อมแสงสว่างของ LED ที่อยู่ภายในปาก (เสียบเล่นครั้งแรกก็ แอบสะดุ้งอยู่เหมือนกัน 5555 … เออ…แบบว่าน่ากัวดีนะ) ใครที่ชื่นชอบการสะสมแก็ดเจ็ต USB และสาวกเอเลี่ยนไม่ควรพลาด สินค้าสุดเท่ชิ้นนี้ ร้อนแรงมากที่ญี่ปุ่น สำหรับตัวเอเลี่ยนก็ทำออกมาได้สวยมากๆ ขยับแขนขา เปลี่ยนท่าทางได้ ตั้งบนโต๊ะทำงานของคุณสักตัว รับรองมีคนทักแน่ๆๆ เพราะมัน เกร๋มากๆๆๆ
ใครที่เป็นขา shop ของแนวเทคโนโลยี่ หรือ ชอบสะสม gadget ต่างๆ ต้องบอกว่า เตรียมกระเป๋าตังค์ของคุณให้ดีๆ เพราะที่ญี่ปุ่นมีแต่ของน่าซื้อทั้งนั้น สมแร้วมีงบประมาณสำหรับลงทุนในงานวิจัยสูงถึง 130 ล้านล้านดอลล่าร์ต่อปี หรือเกือบ 4,000 ล้านล้านบาทต่อปี ซึ่งทำให้ญี่ปุ่นสามารถพัฒนาคิดค้นเทคโนโลยีล้ำๆ ออกมามากมาย รวมถึงการออกแบบ
ผลิตภัณฑ์ที่มีความแปลกใหม่และสะดวกในการใช้งานในชีวิตประจำวันอีกด้วย ทางที่ดีคุมงบก่อนการเดินทางดีกว่านะแจ๊ะ แร้วจะหาว่าเก๊าไม่เตือนนนนนน…..
- Published in ถูกใจขาช็อป
- 1
- 2