ใครจะคิดว่า “ผ้าคลุมรถบรรทุก” จะกลายมาเป็นผ้าใบกระเป๋า
“ยางในรถจักรยาน” จะมาเป็นชิ้นส่วนสำคัญ
เช่นเดียวกับ “ที่รัดเข็มขัด” จะมาเป็นล็อกกระเป๋าได้
ถ้าไม่เห็นด้วยตา ก็อย่าเพิ่งเชื่อค่ะ
นั่งทาแมชชีนย้อนกลับไปเมื่อปี 1993 สองพี่น้องตระกูล Freitag (ไฟร-ทาร์ก) คำว่า FREITAG มีรากศัพท์มาจากภาษาเยอรมัน ดาเนียลเล่าอธิบายการออกเสียงของแบรนด์ให้ฟังว่า
“ถ้าพูดด้วยสำเนียงเยอรมันหรือสวิส จะออกเสียงว่า ‘ฟราย-ทาก’ แต่จริง ๆ แล้วจะอ่านว่าอะไรก็ได้ไม่ว่ากัน (หัวเราะ) ‘Freitag’ เป็นภาษาเยอรมันแปลว่า วันศุกร์ ซึ่งเป็นวันทำงานวันสุดท้ายก่อนที่จะเริ่มวันหยุดสุดสัปดาห์ คนเรามีความรู้สึกดีๆ กับวันศุกร์อยู่แล้ว และคำนี้ก็ยังเป็นนามสกุลของผม ย้อนกลับไปตอนที่ผมกับพี่ชายพยายามหาชื่อเจ๋ง ๆ ให้กับแบรนด์ เราพยายามคิดชื่อใหม่ ๆ ขึ้น จนมีเพื่อนของเราคนหนึ่งบอกว่า ‘พวกนายมีชื่อที่ดีอยู่แล้ว ทำไมไม่ใช้เสียเลย’ เราก็เลยเรียกผลิตภัณฑ์ของเราว่า FREITAG ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา”
จากความคิดของสองพี่น้องดีไซน์เนอร์ มาคัส และ ดาเนียล ฟรายทาก (Markus and Daniel Freitag) โดยพวกเขาทั้งสองเกิดในครอบครัวแถบชนบท ส่งอิทธิพลให้ทั้งสองใส่ใจสิ่งแวดล้อมและรักธรรมชาติ จุดเริ่มต้นของไอเดียจริง ๆ เกิดในช่วงเริ่มทำงานแรก ๆ มาคัสเป็นนักออกแบบดิสเพลย์หน้าร้าน ส่วนคนน้องทำงานเป็นกราฟิกดีไซเนอร์ สิ่งที่ประสบร่วมกันคือพวกเขาทั้งสองปั่นจักรยานไปทำงานทุกวัน และต้องทนกับฝนที่ตกเป็นประจำในนครซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ กระเป๋า Messenger Bag ที่มีขายในตลาดก็ไม่ตอบโจทย์การใช้งานทั้งความทนทานและการกันฝนให้กับพวกเขา ดังนั้นเขาจึงเริ่มมองหากระเป๋าที่สะดวกสำหรับการปั่นจักรยาน โจทย์คือต้องทนทาน กันน้ำ และมีดีไซน์สวย สุดท้ายพวกเขาก็ตัดสินใจลงมือทำกระเป๋าในจินตนาการขึ้นเอง ซึ่งไอเดียมาหยุดลงตรงที่ผ้าใบคลุมรถบรรทุกที่เห็นอยู่ทุกวันจากวิวหน้าต่างห้องพัก ผ้าใบถูกนำมาทำความสะอาด ตัดเย็บในห้องพักของพวกเขา มาคัสเล่าว่า“ เราต้องการกระเป๋าที่แข็งแรงและกันน้ำ ในปี 1993 เรายังไม่มีอินเทอร์เน็ตที่จะใช้สืบค้นวัสดุที่ต้องการได้ บังเอิญที่วิวจากห้องครัวของเราทำให้เห็นรถบรรทุกและผ้าใบที่หมดอายุการใช้งานแต่สภาพยังดี แล้วหลังจากนั้นก็อย่างที่ทุกคนคงรู้กันอยู่แล้ว ” (จากบทสัมภาษณ์ในนิตยสาร a day BULLETIN ฉบับที่ 431)
จากจุดเริ่มต้นเมื่อยี่สิบปีก่อน สองพี่น้องตระกูล Freitag ก็ให้คำมั่นสัญญากับตัวเองว่า จะสร้าง แบรนด์สินค้าของตนจากขยะรีไซลเคิลทั้งหมด ให้กลายมาใช้ประโยชน์ได้จริง จึงทำให้โรงงานของ Freitag ที่ชื่อว่า F-actory มีกระบวนการผลิตที่ต่างจากโรงงานผลิตกระเป๋าทั่วไป ผ้าคลุมรถบรรทุกกว่า 350 ล้านตัน ถูกส่งเข้ามาที่โรงงานของ Freitag ในแต่ละปี ทุกผืนถูกล้างด้วยน้ำฝนที่ตกจากฟ้า (เรียกได้ว่ารีไซเคิลทุกขั้นตอนกันเลยละค๊า) ของเมืองซูริค ผ่านแทงค์เก็บน้ำ และเครื่องซักผ้าขนาดใหญ่ หลังจากคราบไคลหมดสิ้นไป ผ้าใบก็จะถูกส่งไปที่แผนกดีไซน์ ซึ่งจะตัดต่อผ้าใบให้กลายเป็นกระเป๋ารูปแบบต่าง ๆ กว่า 40 ชนิด
ซึ่ง กระเป๋าทุกใบมีเอกลักษณ์ของตัวเอง เสน่ห์ที่สำคัญของกระเป๋า FREITAG นอกเหนือไปจากการนำวัสดุเหลือใช้มาทำประโยชน์สูงสุดแล้วนั้น ยังมีเอกลักษณ์ของตัวเองที่ไม่เหมือนกันในแต่ละใบ ผ้าใบจากรถบรรทุกแต่ละผืนล้วนมีร่องรอยแตกต่างกัน ลวดลายที่เกิดขึ้นบนกระเป๋าจึงไม่สามารถคาดเดาได้ ทำให้ผู้ที่ครอบครองรู้สึกเหมือนเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้คนเดียวในโลกพูดง่าย ๆ คือ ไม่มีสักใบที่จะเหมือนกัน ( คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไปสุด ๆ ไม่มีใครเหมือนฉันและฉันก็ไม่เหมือนใครไปอี๊กกก ) โดยสองพี่น้องเข้าใจจุดนี้หลังจากได้ชมภาพยนตร์ Wild at Heart ของ David Lynch ซึ่งตัวเอกในเรื่องกล่าวประมาณว่า ‘เสื้อแจ็กเก็ตหนังงูคือสิ่งที่แสดงความเป็นตัวตนของผม’ แน่นอนสองพี่น้องนำความอยากแตกต่างของคนยุคนี้มาใช้ ซึ่งคุณลักษณะเช่นนี้ถูกจริตกับกลุ่มคนที่นิยมอัตตาลักษณ์ของตัวเอง เช่น ศิลปิน วัยรุ่น และแฟชั่นนิสต้าทั่วโลก จนทำให้บางคนหลงใหลแบรนด์นี้อย่างถอนตัวไม่ขึ้นบางคนถึงกับมีสะสมมากถึง 300-400 ใบเลยทีเดียว
เรียกว่าเป็นอิภิมหาอลังการดาวล้านดวงในความเป็นสตอรี่ ถึงกับต้องร้องว้าวววว!!! กันเลยใช่มั๊ยละคะ คอนเซ็ปต์แบรนด์มันโคตรเก๋ และปรัชญาอันแรงกล้าที่สตรองแบบสุดๆ วัสดุที่ใช้ทำให้กระเป๋าใบนี้แข็งแรงยิ่งกว่าใบใดในโลก ทนกว่าควายสิบตัวรวมกันนน ถ้าสิบล้อยังใช้ผ้าใบปกป้องของได้ FREITAG ก็ใช้ได้ยันชั่วลูกชั่วหลาน ส่งต่อเป็นมรดกได้อี๊กก เป็นใบเก่าแต่ยังเก๋านะจ้ะเพราะมีใบเดียวในโลก ทนทานแบบเพอร์เฟคแล้วยังอัลลิมิเต็ดอิดิชั่น ทำให้กระเป๋า FREITAG ครองใจคน(ฮิปๆ)เกือบทั้งโลก สำหรับสาวกชาวไทยคนรัก FREITAG อยากมีไว้ครอบครอง ร้านรับฝากซื้อเขามีบริการด้วยน๊า ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้วคลิ๊กหลายครั้งที่ คนเราคิดเล็ก แต่กลับได้ฝันก้อนใหญ่ หรือบางคนคิดใหญ่ แต่ได้ฝันก้อนเล็ก … แต่ที่สุดแล้ว ก็คือการลุกขึ้นมาทำให้ฝันเป็นจริงเป็นที่สำคัญที่สุด ถ้าไม่อยากคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่องไม่อยากตกเทรนต้องมีพกไว้ข้างกายสักใบกันนะค๊า ต้องลองแล้วจะหลงรัก FREITAG
ขอยกย่อง FREITAG แบรนด์กระเป๋ารักษ์โลกที่ยังครองใจคน(ฮิปๆ)เกือบทั้งโลกจวบจนปัจจุบันนี้